รมต.สำนักนายกฯ เรียก ช้อปปี้ แกร็บ ไลน์แมน คุมร้านค้าที่ขายอาหารไม่ให้ขึ้นราคากับลูกค้าที่สั่งฟู้ดเดลิเวอรี ผ่านโครงการคนละครึ่งพลัส พร้อมขอให้จัดโปรโมชันส่วนลดท็อปอัพให้อีก รวมเป็นลดราคา 2 เด้ง
นายสันติ ปิยะทัต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า สคบ. ได้ร่วมมือกับ 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ไลน์แมน (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค ที่สั่งฟู้ดเดลิเวอรี ผ่านแพลตฟอร์มในโครงการคนละครึ่งพลัส ที่จะเริ่มในวันที่ 7 พ.ย. 2568 โดยกำชับให้ช่วยคุมราคาอาหารไม่ให้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการขายเกินราคา ด้วยการปิดระบบแก้ไขเมนูของร้านค้า เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา และขอให้จัดโปรโมชันส่วนลดให้กับผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคได้ส่วนลด 2 เด้ง คือได้ส่วนลด 50% จากการซื้ออาหาร สูงสุดไม่เกิน 200 บาทต่อวัน จากโครงการคนละครึ่งพลัส และส่วนลดเพิ่มเติมจากแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมทั้งขอให้ลดค่า GP หรือ ค่าธรรมเนียมที่แพลตฟอร์มเก็บจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส
...
ขณะเดียวกันยังมีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่เข้าร่วมอีก 2 ราย ได้แก่ บริษัท ลาซาด้า จำกัด บริษัท ติ๊กต็อก ช็อป (ประเทศไทย) จำกัด โดยได้กำชับแพลตฟอร์มทั้ง 5 ราย เฝ้าระวังการจัดจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า หรือสินค้าที่ผิดกฎหมายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยตรวจจับ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้เอาจริงในเรื่องนี้ เพื่อป้องกันและปราบปรามในทุกแพลตฟอร์ม โดยภาครัฐหลายหน่วยงาน เช่น สคบ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการเดินหน้าป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจังตามที่ปรากฏเป็นข่าวให้เห็นอยู่ตลอด
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า สคบ. เปิดช่องทางร้องทุกข์เพิ่มเติมจากสายด่วน เพิ่มอีก 10 สาย เพื่อให้ผู้บริโภคที่ได้รับความไม่เป็นธรรมจากโครงการคนละครึ่งพลัส พร้อมเร่งรัดเรื่องร้องเรียนเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยทันที ไม่ต้องรอตามกระบวนการปกติ เพราะแต่ละปีมีผู้ร้องเรียนเข้ามาหลัก 10,000 ราย โดยจะใช้เวลาดำเนินการทันที ส่วนระยะเวลาในการไกล่เกลี่ยขึ้นอยู่กับความยากง่ายของกรณีที่เกิดขึ้น
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม