กรมการค้าภายใน ตรวจราคาสินค้าช่วงเทศกาลกินเจ 2568 ที่ตลาดยิ่งเจริญ พบราคาสินค้าส่วนใหญ่ลดลงจากปีก่อน มีเพียงผักบางชนิดที่ปรับขึ้นเล็กน้อย พร้อมผลักดันร้านธงฟ้า-ร้านค้าประชารัฐ กว่า 8 หมื่นแห่งทั่วประเทศร่วมคนละครึ่งพลัส เพิ่มทางเลือกประชาชนซื้อของถูก
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เผยภายหลังการติดตามสถานการณ์การจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ณ ตลาดยิ่งเจริญ เมื่อวันที่ 22 ต.ค.68 ว่า สถานการณ์การจำหน่ายสินค้าเทศกาลกินเจ 2568 ณ ตลาดยิ่งเจริญ เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมาจับจ่ายจำนวนมาก โดยพบว่าผู้ประกอบการให้ความร่วมมืออย่างดี ในการติดป้ายแสดงราคาสินค้าอย่างชัดเจนครบถ้วน และมีการจัดโปรโมชั่น “3 อย่าง 100 บาท” เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนแผงจำหน่ายวัตถุดิบอาหารเจ เช่น ผักสด เต้าหู้ หมี่ซั่ว และสินค้าโปรตีนทางเลือก เพื่อรองรับความต้องการบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงเทศกาล
...
ทั้งนี้ จากการสอบถามแม่ค้าและผู้บริโภค พบว่า ราคาวัตถุดิบอาหารเจปีนี้ลดลงจากปีก่อน โดยเฉพาะกะหล่ำปลี หัวไชเท้า ผักกาด และแครอท ขณะที่ซอสปรุงรสและอาหารแห้ง เช่น ฟองเต้าหู้ เห็ดหอม และหมี่ซั่ว มีราคาทรงตัวจากปีก่อน ไม่ได้ปรับขึ้น ส่วนผักบางชนิด เช่น คะน้าและกวางตุ้ง ราคาขยับขึ้นเล็กน้อยตามสภาพผลผลิตจากสภาพอากาศ โดยประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับว่าตลาดยิ่งเจริญเป็นแหล่งซื้อสินค้าเทศกาลกินเจ ที่มีราคาย่อมเยา และมีสินค้าหลากหลายตอบโจทย์การบริโภคเจได้ครบในที่เดียว
สำหรับเทศกาลเจปี 2568 กรมได้จัดกิจกรรม “มหกรรมสินค้าลดราคาสินค้าเทศกาลกินเจ อิ่มบุญ ราคาประหยัด” ระหว่างวันที่ 21–29 ต.ค.68 ลดราคาสินค้าครอบคลุมทั้งวัตถุดิบอาหารเจ ซอสปรุงรส อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ อาหารแห่งอนาคต (Plant-based) และอาหารสด–ปรุงสำเร็จ พร้อมเชื่อมโยงผักปลอดภัยจากเกษตรกรโดยตรงเข้าสู่ตลาด จำหน่ายในราคาประหยัดอย่างต่อเนื่องตลอดเทศกาล โดยมีพันธมิตรกว่า 97 ราย ทั้งจากห้างค้าส่ง–ค้าปลีก ตลาดสด ตลาดกลาง และผู้ประกอบการรายย่อยเข้าร่วม สามารถลดราคาสินค้าได้สูงสุดถึง 56% เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงอาหารเจ คุณภาพดีในราคาย่อมเยา พร้อมทั้งเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นการหมุนเวียนเศรษฐกิจฐานรากทั่วประเทศ
นอกจากนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ยังได้ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบการแสดงป้ายราคาสินค้าอย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมและสามารถเปรียบเทียบราคาได้อย่างโปร่งใส โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบตลาดยิ่งเจริญในกรุงเทพมหานคร พบว่าประชาชนให้การตอบรับกิจกรรมลดราคาคึกคัก
“กรมจะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงเทศกาล หากพบการจำหน่ายสินค้าเกินราคาที่สมควร ไม่ปิดป้ายแสดงราคา หรือบิดเบือนปริมาณ จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชน และหากพบเห็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมโทร.1569 จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ และหากพบผิด จะดำเนินการตามกฎหมาย”
...
นายกรนิจ กล่าวต่อถึงโครงการคนละครึ่งพลัสของรัฐบาลว่า กรมได้เร่งขยายเครือข่ายร้านค้าประชารัฐและร้านค้าธงฟ้ากว่า 80,000 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วมจำหน่ายสินค้าเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิคนละครึ่งซื้อสินค้าได้จริง ลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกัน ยังเป็นการเพิ่มช่องทางรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยอย่างทั่วถึง.
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม