“มัลลิกา” ยืนยันยังไม่มีนโยบายปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่มิเตอร์ แต่ยอมรับมีการศึกษา “Digital Taxi Meter” เพื่อสร้างความเป็นธรรมกับผู้ใช้บริการ พร้อมลุยติดตั้งสติกเกอร์ QR Code แปะข้างรถให้ประชาชนสแกนร้องเรียน หากไม่ได้รับความเป็นธรรมบริการ-แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร หวังยกระดับแท็กซี่ไทย ตั้งธงบังคับติดครบทุกคันกว่า 6.9 หมื่นคัน เริ่มมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้ เพิ่มบทลงโทษจ่ายค่าปรับ 2 พันบาท-พักใช้ใบขับขี่ทันที

นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก(ขบ.)ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับราคาค่าโดยสารรถแท็กซี่ในทุกกรณีในขณะนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน เนื่องจากในปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย แต่ยอมรับว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาที่จะนำระบบเทคโนโลยี Digital Taxi Meter เข้ามาใช้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ขณะเดียวกันเพื่อยกระดับแท็กซี่ไทย

นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รมช.คมนาคม
นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รมช.คมนาคม

...

“ปัจจุบันมุ่งเน้นที่ระบบความปลอดภัย ความสะดวกและความทันสมัยก่อน ส่วนการประเมินผลเรื่องค่าโดยสาร เช่น ค่า Surcharge จะใช้เวลาพิจารณาและจะต้องได้รับความเห็นชอบจากทุกภาคส่วนอย่างละเอียดรอบคอบ” นางสาวมัลลิกา กล่าว

นางสาวมัลลิกา กล่าวต่อว่า และเพื่อเป็นการแก้ปัญหารถแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร ตนจึงได้สั่งการให้กรมขนส่งทางบก นำระบบคิวอาร์โค้ดร้องเรียน (QR Code)มาใช้ โดยจะเป็นรูปแบบสติกเกอร์แปะข้างรถบริเวณประตูรถข้างนอก หากเรียกแล้วแท็กซี่ปฏิเสธรับก็สามารถสแกนร้องเรียนได้ทันที ซึ่งคิวอาร์โค้ด QR Code จะสามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ขับขี่,เลขที่ใบขับขี่ ที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการในเรื่องความปลอดภัย ความสะดวก ความโปร่งใสและการตรวจสอบได้

ด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร โดยใช้ระบบคิวอาร์โค้ด (QR Code) ที่ติดอยู่ด้านนอกตัวรถแท็กซี่ทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งจะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถสแกนและร้องเรียนได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถร้องเรียนเรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากการปฏิเสธผู้โดยสารได้ด้วย หากรถคันดังกล่าวปฏิเสธการรับผู้โดยสารก่อนขึ้นรถ ข้อมูลนี้จะลิงก์ตรงไปยังกรมฯ โดยระบุขึ้นทะเบียนรถและข้อมูลคนขับได้ทันที

ขณะเดียวกันกรมฯจะมีการประสานงานกับอู่รถแท็กซี่และสหกรณ์แท็กซี่ โดยเฉพาะกลุ่มใหญ่ในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณ 5,000 คัน ให้เข้ามารับสติกเกอร์ไปดำเนินการ ทั้งนี้การติดสติกเกอร์คิวอาร์โค้ดจะเปิดโอกาสให้แท็กซี่รายเดิมเข้าร่วมด้วย ส่วนแท็กซี่รายใหม่จะต้องติดตั้งสติกเกอร์คิวอาร์โค้ดทันที“การบังคับใช้ระบบคิวอาร์โค้ด ตามแผนกรมฯ จะเริ่มติดสติกเกอร์คิวอาร์โค้ดบนตัวรถแท็กซี่ โดยจะเริ่มพร้อมกับการตรวจสภาพรถประจำปี ที่มีการตรวจรถ 2 ครั้งต่อปี ภายในปีนี้ ยืนยันว่ารถแท็กซี่ทุกคันต้องติดสติกเกอร์คิวอาร์โค้ดดังกล่าวเพื่อใช้เป็นช่องทางร้องเรียนโดยตรง” นายสรพงศ์ กล่าว

สำหรับบทลงโทษหากรถแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารนั้น เบื้องต้นกรมฯจะบังคับใช้บทลงโทษ ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ. รถยนต์ ที่มีโทษ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท โดยจะมีการบันทึกประวัติ จากนั้นจะนำไปสู่การพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หากกระทำผิดซ้ำตามเกณฑ์ที่กำหนดหรือหากเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่กระทบต่อชื่อเสียงของประเทศ เช่น เหตุการณ์ที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยว สามารถนำไปสู่การพักใช้ใบอนุญาตได้ทันที อย่างไรก็ดีในปัจจุบันมีแท็กซี่ที่ให้บริการในระบบประมาณ 69,000 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 จำนวน ประมาณ 120,000 คัน

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม