ครม.เศรษฐกิจนัดแรก รัฐบาล “อนุทิน” เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 4 เดือนของรัฐบาล เตรียมเสนอมาตรการท่องเที่ยวแพ็กเกจใหญ่เข้า ครม. สัปดาห์หน้า ทั้งลดหย่อนภาษีจากการเที่ยวเมืองหลักได้ 1 เท่า เมืองรอง 1.5 เท่า เพดานที่ 20,000 บาท เร่งภาครัฐจัดสัมมนาภายใน ม.ค. 2569 และให้สิทธิ์โรงแรมเมืองรองหักค่าใช้จ่ายรีโนเวทในการยื่นภาษีได้ 2 เท่า ถึง มี.ค. 2569 พร้อมเดินหน้าเร่งรัดเบิกงบปี 2569 กว่า 3.78 ล้านล้าน ตั้งเป้าเบิกจ่ายได้ 93% โฆษกรัฐบาลคาดมาตรการหนุนเศรษฐกิจโตได้ 0.4%

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธาน ว่า การประชุมครั้งแรกนี้ได้ทบทวนแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วง 4 เดือน ที่เริ่มแล้วคือการเปิดลงทะเบียนร้านค้าสำหรับโครงการคนละครึ่งพลัส เมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา

...

ส่วนที่หารือกันและจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ติดลบ 8% ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา โดยกระทรวงการคลังจะเสนอเป็นแพ็กเกจการท่องเที่ยวประกอบไปด้วย 3 มาตรการหลักได้แก่ 

1. มาตรการทางภาษี โดยให้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีได้สูงสุดคนละ 20,000 บาท โดยสำหรับการท่องเที่ยวเมืองหลัก 1 เท่า และเมืองรอง 1.5 เท่า โดยจะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. – 15 ธ.ค. 2568

2. โครงการเร่งรัดการจัดประชุมสัมมนาของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีงบประมาณของแต่ละภาคส่วนอยู่แล้ว 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ส่วนราชการ 3,000 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจอีก 3,000 ล้านบาท ยังไม่รวมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตั้งไว้เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยกำหนดให้เบิกจ่าย 60% ของงบอบรมสัมมนาภายในเดือนมกราคม 2568 แทนที่จะรอจ่ายในไตรมาส 3-4 ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ นอกจากนี้ ประธานสภาหอการค้าเสนอให้บริษัทนิติบุคคลสามารถนำค่าใช้จ่ายในการพาพนักงานเที่ยวในประเทศมาหักลดหย่อนภาษีได้ เพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงการคลังกำลังพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้

3. มาตรการสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมและที่พัก โดยให้สิทธิหักค่าใช้จ่ายในการรีโนเวตได้ 2 เท่า สำหรับเมืองรองโดยเฉพาะ โดยให้สิทธิ์ใช้จ่ายได้ถึงเดือน มี.ค. 2569 โดยสามารถนำไปใช้ในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ การติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อลดต้นทุนและความยั่งยืน การจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียได้ด้วย

นอกจากนี้ จะพิจารณามาตรการอื่นๆ เช่น การลดภาษีสถานบริการจาก 10% เหลือ 5% โดยประสานกระทรวงมหาดไทยและกรมสรรพสามิตเชื่อมโยงข้อมูลสถานบริการ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ดำเนินการถูกต้องสามารถเข้าสู่ระบบและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อย่างครอบคลุม

นายเอกนิติ กล่าวว่า ได้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2569 วงเงินกว่า 3.78 ล้านล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมามีงบเหลือจ่ายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึงกว่า 300,000 ล้านบาท และงบลงทุนเบิกจ่ายได้แค่ 65% เท่านั้น ในปีนี้จึงมีการตั้งเป้าการเบิกจ่ายงบประมาณปกติไว้ที่ 93% และงบลงทุนฯ ไว้ที่ 75% รวมทั้งกำหนดเป็นตัวชี้วัด (KPI) ของหัวหน้าส่วนราชการด้วย โดยเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะติดตามเป็นรายเดือนและรายงานนายกรัฐมนตรีทราบ

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มาตรการเศรษฐกิจช่วงปลายปีของรัฐบาลจะดันให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.4% โดยยังไม่รวมกับมาตรการสินเชื่อที่จะลงไปเพิ่มเติมหลังจากนี้

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม