"มัลลิกา" รมช. คมนาคม ป้ายแดง ชงนโยบายขับเคลื่อนด้านการบิน จ่อรื้อบอร์ด-ผลสรรหา เอ็มดี บวท. คนใหม่ อ้างบอร์ด บวท. ยังไม่ครบองค์ประชุมต้องปรับเปลี่ยน แต่งตั้งบอร์ดให้ได้ข้อสรุปก่อน
นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รมช. คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ให้นโยบายกับ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ในเรื่องของการสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. คนใหม่ ให้รอการแต่งตั้งคณะกรรมการ บวท. ให้ครบองค์ประชุมก่อน เนื่องจากขณะนี้บอร์ด บวท. มีกรรมการบางคนครบวาระ ปัจจุบันมีเพียง 6 คน คาดว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องบอร์ด บวท. ชุดใหม่ครบ 11 คน ภายในสิ้นเดือนนี้ หลังจากนั้น บอร์ด บวท. ถึงจะมีการพิจารณาว่าการสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. จะเดินหน้าต่อ หรือจะมีการดำเนินการอย่างไร โดยเน้นย้ำว่าให้มีการตรวจสอบคุณสมบัติให้รอบคอบ ซึ่งคาดว่าจะได้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. คนใหม่ ภายใน 4 เดือนนี้แน่นอน
"โดยเน้นย้ำว่าทุกขั้นตอนจะต้องดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อป้องกันข้อร้องเรียนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะมีการพิจารณาผู้สมัครเดิมที่เคยมีการเสนอชื่อไปแล้ว หรือจะมีการเปิดรับสมัครใหม่ทั้งหมด โดยจะต้องมีการทบทวนระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ"
...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ได้เปิดสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. คนใหม่ แทน นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ ที่ครบวาระไปเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 68 โดยมีผู้ยื่นใบสมัครจำนวน 3 ราย โดยมีผู้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นที่มีสิทธิเข้ารับการสัมภาษณ์และนำเสนอวิสัยทัศน์จำนวนทั้งสิ้น 2 คน ประกอบด้วย
1.นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด
2. นายมนตรี สุคนธมาน รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท.
ด้านนายสุรชัย หนูพรหม รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) กล่าวว่า ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ปลายปีนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม และนางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รมช.คมนาคม มอบนโยบายให้ บวท. เร่งขับเคลื่อนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านการบินและการจราจรทางอากาศ เพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินที่คาดการณ์ว่า จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
สำหรับการจราจรทางอากาศในช่วงไฮซีซั่น เริ่มมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นจากช่วงโลว์ซีซั่นที่ผ่านมา โดยจากข้อมูลเมื่อวานนี้ (9 ต.ค. 2568) พบว่า มีเที่ยวบิน 2,300 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากช่วงโลว์ซีซั่นที่มีเที่ยวบินเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2,100 เที่ยวบินต่อวัน อย่างไรก็ตาม คาดว่า ในช่วงปลายปีนี้ จะมีเที่ยวบินสูงถึง 2,500 เที่ยวบินต่อวัน ส่วนภาพรวมการจราจรทางอากาศในปัจจุบันนั้น ในปี 2568 มีเที่ยวบินอยู่ที่ประมาณ 9 แสนเที่ยวบิน ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2568 ที่ผ่านมา และตั้งเป้าหมายว่า ในปี 2569 ปริมาณเที่ยวบินจะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านเที่ยวบิน ถือว่า เริ่มกลับมาฟื้นตัวเทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เมื่อปี 2562 ที่มีเที่ยวบินอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านเที่ยวบิน และคาดว่า จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านเที่ยวบิน ภายใน 10 ปี
...
ขณะที่ สายการบินระหว่างประเทศที่ทำการบินมายังประเทศไทย และผ่านน่านฟ้าไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ต.ค. 2568) พบว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยังครองอันดับที่ 1 ที่มีเที่ยวบินอยู่ที่ประมาณ 1,245 เที่ยวบินต่อวัน ส่วนยุโรปอยู่อันดับที่ 2 มีเที่ยวบินอยู่ที่ประมาณ 106 เที่ยวบินต่อวัน รองลงมาคือตะวันออกกลาง อยู่ที่ประมาณ 94 เที่ยวบินต่อวัน ทั้งนี้ เมื่อแยกเป็นรายประเทศ พบว่า จีนยังมีปริมาณเที่ยวบินสูงสุดอยู่ที่ 248 เที่ยวบินต่อวัน ส่วนรองลงมาตามลำดับคืออินเดียอยู่ที่ 137 เที่ยวบินต่อวัน, มาเลเซีย 128 เที่ยวบินต่อวัน, สิงคโปร์ 119 เที่ยวบินต่อวัน, เวียดนาม 92 เที่ยวบินต่อวัน, เกาหลีใต้ 66 เที่ยวบินต่อวัน, ญี่ปุ่น 65 เที่ยวบินต่อวัน, รัสเซีย 28 เที่ยวบินต่อวัน, ออสเตรเลีย 17 เที่ยวบินต่อวัน, สหราชอาณาจักร 12 เที่ยวบินต่อวัน, ฝรั่งเศส 9 เที่ยวบินต่อวัน เป็นต้น
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม
...