กรมทางหลวงเตรียมประชุมคณะกรรมาธิการบริหารสะพานฯ ไทย-ลาว 10 ต.ค. นี้ ถกเตรียมความพร้อม เปิดใช้สะพานฯ ปลายปีนี้ เชื่อมโยงเศรษฐกิจ "ไทย–ลาว–เวียดนาม" หนุนมูลค่าการค้าชายแดนพุ่ง
นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้าง สะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ–บอลิคำไซ) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเปิดใช้อย่างเป็นทางการภายในปลายเดือนธันวาคม 2568 หลังจากการประชุมคณะกรรมาธิการบริหารและบำรุงรักษาสะพานมิตรภาพไทย–ลาว ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ ผ่านระบบ Zoom เพื่อหารือแนวทางการเปิดใช้สะพานและกำหนดมาตรการบริหารจัดการร่วมกันระหว่างสองประเทศ
สำหรับโครงการสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 5 มีระยะทางรวมทั้งสิ้นประมาณ 16.34 กิโลเมตร ประกอบด้วยสะพานข้ามแม่น้ำโขงและถนนโครงข่ายเชื่อมต่อทั้งสองฝั่ง โดยมีมูลค่าการลงทุนรวม 3,772 ล้านบาท แบ่งเป็นค่างานตามสัญญาฝ่ายไทย 2,576 ล้านบาท และฝ่าย สปป.ลาว ประมาณ 1,196 ล้านบาท สะพานตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เชื่อมกับเมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ ของ สปป.ลาว ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เปิดประตูเศรษฐกิจสู่ภูมิภาคอินโดจีน
...
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมวันที่ 10 ตุลาคมนี้ คณะกรรมาธิการบริหารสะพานฯ จะพิจารณาประเด็นสำคัญหลายด้านเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดใช้อย่างเป็นทางการ อาทิ การกำหนดเวลาเปิด–ปิดสะพาน ซึ่งคาดว่าจะยึดตามมาตรฐานเดียวกับสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งอื่น ๆ คือ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 22.00 น. รวมถึงการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมผ่านสะพาน และข้อกำหนดด้านการจราจร ความปลอดภัย และพิธีการศุลกากร โดยทั้งหมดจะดำเนินการภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและลาว เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกับสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม–คำม่วน) และ แห่งที่ 4 (เชียงของ–ห้วยทราย)
สำหรับลักษณะทางวิศวกรรม สะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 5 ถือเป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งแรกที่ออกแบบในรูปแบบสะพานคานขึงคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง (Extradosed Prestressed Concrete Bridge) คล้ายกับสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ จ.นนทบุรี มีเสากลางรับแรงดึงพร้อมสายเคเบิล พร้อมพื้นคอนกรีตอัดแรงที่บาง ซึ่งจะทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรง ทันสมัย และมีความสวยงามโดดเด่นแตกต่างจากสะพานมิตรภาพแห่งอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงสร้างคอนกรีตแบบดั้งเดิม ทั้งยังออกแบบให้รองรับการจราจรสองช่องทาง พร้อมระบบไฟส่องสว่างที่ได้มาตรฐาน
นอกจากนี้ สะพานแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งภายใต้ยุทธศาสตร์และแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย ยกระดับระบบโลจิสติกส์ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเป้าหมายในการสร้างรากฐานความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม ความปลอดภัยในการเดินทาง มุ่งเน้นการเชื่อมโยงและความคล่องตัวในการขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้านไปสู่ศูนย์กลางของภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ โครงการนี้ยังสอดรับกับกรอบความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาค ได้แก่ กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง ถือเป็นเส้นทางหลักเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของภูมิภาค โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย กับภาคใต้ของลาว
...
อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังเปิดใช้งาน จะช่วยส่งเสริมการเดินทางและขนส่งสินค้าข้ามแดนที่จังหวัดบึงกาฬ โดยมีสินค้าหลักที่คาดว่าจะขยายตัวได้แก่ยางพารา มันสำปะหลัง พืชเกษตรแปรรูป และสินค้าอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ยังจะส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงสามประเทศ ไทย–ลาว–เวียดนาม สร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติใหม่ในภูมิภาค และยังเปรียบเสมือนประตูเศรษฐกิจแห่งใหม่อีกด้วย
...
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม