"อรรถกร" สั่ง ททท. ตั้งโจทย์ใหม่กระตุ้นท่องเที่ยวโค้งท้ายปี ลั่นดึงจีนกลับ 2-3 ล้านคนในช่วงอายุรัฐบาล 4 เดือน ยอมรับสถานการณ์ท่องเที่ยวปีนี้ซบเซา ตั้งโจทย์ใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิมเพื่อ "ไขว่คว้า" ตัวเลขนักท่องเที่ยวกลับมา ชี้ต้องใช้คำว่า "เรียนเชิญ" ไม่ใช่แค่ "เชิญชวน" 

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้บริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่า ยอมรับว่าการท่องเที่ยวในปีนี้อาจจะซบเซาลงบ้าง เนื่องจากกรอบเวลาการทำงานของรัฐบาลที่ชัดเจน จึงได้วางแนวทางการทำงานระยะสั้น โดยจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มประเทศเป้าหมาย ที่ต้องการเรียนเชิญให้เดินทางกลับมายังประเทศไทย  

"วันนี้เราต้องปรับมายด์เซ็ตของตัวเอง ไม่ใช่ว่าเราเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ยังมีประเทศอื่นที่พัฒนาขึ้นมา ซึ่งอาจตอบโจทย์นักท่องเที่ยวได้ดีกว่าเราในบางด้าน เราจึงต้องใช้คำว่า เรียนเชิญ ไม่ใช่แค่ เชิญชวนอีกต่อไป"  

...

สำหรับการดำเนินงาน จะปรับเปลี่ยนจากการทำการตลาดแบบภาพรวมกลุ่มประเทศ มาเป็นการทำการบ้านและวางกลยุทธ์เฉพาะเจาะจงเป็นรายประเทศ เพื่อให้เหมาะสมกับพฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน โดยหวังว่าจะสามารถฟื้นฟู จำนวนนักท่องเที่ยวให้กลับมาใช้จ่ายและช่วยโปรโมทประเทศไทยในฐานะประเทศยักษ์ใหญ่ด้านการท่องเที่ยวต่อไป 

นายอรรถกร เปิดเผยว่า มีการตั้งโจทย์ใหม่ ร่วมกับผู้บริหาร ททท.ซึ่งเป็นตัวเลขเป้าหมายที่สูงกว่าการคาดการณ์เดิมและต้องไขว่คว้าเยอะๆ ถึงจะไปให้ถึง" อย่างไรก็ตาม ขอปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวเลขต่อสื่อมวลชน เพราะเป็น คำสัญญาลูกผู้ชายและลูกผู้หญิง ที่ตกลงกันไว้เป็นการภายในในห้องประชุม 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและรมวย.เกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวถึงเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมา 2-3 ล้านคนในช่วง 4 เดือนของอายุรัฐบาลนายอรรถกร กล่าวว่าเป็นเป้าหมายที่ตนตั้งขึ้นเองและได้แจ้งกับ ร.อ.ธรรมนัสไว้ โดยเป็นเรื่องที่ผมเซ็ตโกลของตัวเองไว้ ซึ่งเบื้องต้นก็ได้กระตุ้นไปที่ท่านผู้ว่า ททท. แล้วว่า เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ทำ แม้จะเป็นตัวเลขที่หลายคนมองว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็เชื่อว่ามีวิธีการที่จะทำให้สำเร็จได้ โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ  

สำหรับประเทศเป้าหมายหลักที่ต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยว ประกอบด้วย จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, อินเดีย, และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง (Middle East) เช่น ซาอุดีอาระเบีย ขณะเดียวกันจะยังคงรักษา (maintain) ตลาดนักท่องเที่ยวจากยุโรปและอเมริกา เช่น กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย รัสเซีย และโปแลนด์ ซึ่งมีตัวเลขที่ดีขึ้นในปีที่ผ่านมาไว้ด้วย นอกจากนี้การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองในประเทศก็ยังคงดำเนินควบคู่กันไป

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม