กรมทรัพย์สินทางปัญญา ขานรับนโยบาย รมว.พาณิชย์ เดินหน้าผลักดันสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า GI ไทย เหตุสินค้า GI ยกระดับรายได้ให้เกษตรกร และผู้ประกอบการได้จริง อย่าง ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง ราคาพุ่งขึ้นเป็นลูกละ 300-500 บาท จาก 100-200 บาท พร้อมรุกเสริมแกร่ง SME ด้วยทรัพย์สินทางปัญญาอย่างยั่งยืน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมเร่งดำเนินการตามนโยบายของรมว.พาณิชย์ ที่ให้ความสำคัญกับการเสริมแกร่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยการเพิ่มรายได้ผ่านสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมใน 4 เดือน โดยจะเร่งต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนแล้ว ทั้งการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า การพัฒนาภาพลักษณ์สินค้าสู่ระดับพรีเมียม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของสินค้า และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค และการขยายช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว จะทำควบคู่ไปกับการส่งเสริมการขึ้นทะเบียน GI ในสินค้าใหม่ๆ โดยจะร่วมมือกับพาณิชย์จังหวัด เฟ้นหาสินค้าคุณภาพที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นประจำถิ่น ให้เข้าสู่ระบบการคุ้มครอง GI พร้อมประสานความร่วมมือสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ร่วมวิเคราะห์ตลาดเป้าหมาย เพื่อร่วมกันส่งเสริมการขยายตลาดสินค้า GI ไทยสู่สากล รวมถึงจะส่งเสริมว่าที่สินค้า GI (สินค้าที่อยู่ระหว่างการยื่นคำขอขึ้นทะเบียน) อีก 5 รายการ ได้แก่ ทุเรียนชุมพร กกเหล่าพัฒนา (นครพนม) ไก่เบตงยะลา ผ้าทอนาหมื่นศรี (ตรัง) และมะยงชิดแม่ย่าสุโขทัย ไปพร้อมกันด้วย
...
สำหรับสินค้า GI ถือเป็นของดีประจำถิ่น และที่ผ่านมา สินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น GI สามารถเพิ่มมูลค่าได้มากกว่าสินค้าทั่วไปถึง 2-5 เท่า เช่น ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง นครศรีธรรมราช ราคาขายก่อนเป็น GI ลูกละ 100 – 200 บาท แต่เมื่อได้เป็น GI แล้วราคาขายเพิ่มขึ้นสูงถึงลูกละ 300–500 บาท ปัจจุบันมีสินค้าท้องถิ่นไทยที่ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI ไทยแล้ว 239 สินค้า ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในปี 68 กว่า 82,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ กรมจะดำเนินกิจกรรมเชิงรุกเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญา ส่งเสริมการนำนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญามาใช้ประโยชน์ และตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ๆ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งผลักดันให้ผู้ประกอบการนำทรัพย์สินทางปัญญามาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างแต้มต่อทางการค้าและสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการ ท่ามกลางภาวะการแข่งขันทางการค้าที่เข้มข้นในปัจจุบัน
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม