ลูเมนตั้ม (Lumentum) ยักษ์ใหญ่เซมิคอนดักเตอร์จากสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนลงทุนขยายฐานผลิตชิปประเภทโฟโตนิกส์ พร้อมจัดตั้งศูนย์วิจัยและออกแบบชิปแห่งใหม่ ยกระดับฐานธุรกิจในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีชิปที่มีความสามารถในการประมวลผลขั้นสูงและประหยัดพลังงาน เร่งสปีดรองรับความต้องการชิปในอุตสาหกรรมไฮเทคต่าง ๆ หนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในไทย
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการหารือกับ Mr. Michael Hurlston ประธานบริษัท ลูเมนตั้ม (Lumentum) หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ ว่าบริษัท ลูเมนตั้ม ได้นำเสนอแผนขยายกำลังการผลิต และการจัดตั้งศูนย์วิจัยและออกแบบชิปแห่งใหม่ในกลุ่มชิปประเภทโฟโตนิกส์ ซึ่งเป็นชิประดับสูงที่ใช้ในการส่งสัญญาณด้วยแสง และเป็นส่วนประกอบสำคัญของหน่วยประมวลผลประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดโลก ที่ต้องการนวัตกรรมการผลิตชิปที่มีความสามารถในการประมวลผลขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไฟเบอร์ออปติก และดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งปัจจุบันตลาดชิปโฟโตนิกส์มีมูลค่า 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายใน 5 ปี เนื่องจากโฟโตนิกส์เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะเป็นพื้นฐานของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
“ลูเมนตั้ม เป็นผู้นำอุตสาหกรรมชิปประเภทโฟโตนิกส์ระดับโลก ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ เพื่อจัดตั้งฐานการประกอบและทดสอบชิปที่ใช้ในอุตสาหกรรมการสื่อสารและโทรคมนาคมในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2560 ภายใต้ชื่อบริษัท ลูเมนตั้ม อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ที่เขตอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี มูลค่าลงทุนรวม 20,000 ล้านบาท จ้างงานบุคลากรไทย 6,000 คน ในจำนวนนี้มีวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ 700 คน ซึ่งได้รับการฝึกอบรมอย่างดี เพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมชิปโฟโตนิกส์”
...
บริษัทมีการส่งออกผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยมูลค่า 14,000 ล้านบาทในปี 2567 และคาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดกว่า 2 เท่าในปีนี้ โดยโครงการล่าสุดที่ได้รับอนุมัติจากบีโอไอ เป็นการขยายโรงงานผลิตชิปแหล่งกำเนิดแสงที่มีพลังงานสูง (Ultra-High-Power Chip-on-Carrier) เงินลงทุน 2,300 ล้านบาท ชิปดังกล่าวจะถูกใช้ในอุปกรณ์ที่มีความแม่นยำสูงหรือต้องการกำลังการประมวลผลสูง เช่น หน่วยประมวลผลสำหรับ AI (GPU) อุปกรณ์ตรวจจับด้วยเลเซอร์ที่ใช้ในเครื่องมือแพทย์ และยานยนต์อัจฉริยะ เป็นต้น นอกจากนี้ ที่ผ่านมาลูเมนตั้มยังมีส่วนสำคัญในการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจในอุตสาหกรรมชิปโฟโตนิกส์ในประเทศไทย โดยการดึงซัพพลายเออร์ระดับโลกให้ตามเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตในไทยอีก 20 ราย
“ลูเมนตั้ม ถือเป็นพันธมิตรสำคัญที่ช่วยวางรากฐานอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ไทย การประกาศแผนขยายการลงทุนครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการจัดตั้งศูนย์วิจัยและออกแบบชิปเต็มรูปแบบแห่งแรกในไทย ถือเป็นการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์และเป็นก้าวที่มีความสำคัญอย่างมากต่อประเทศไทย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทย และจะช่วยยกระดับบทบาทของไทยจากเดิมที่เป็นผู้ประกอบและทดสอบชิป ให้ก้าวไปสู่การเป็นผู้ออกแบบและสร้างนวัตกรรมในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย “ชิปเมดอินไทยแลนด์””
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม