ดีป้ากระตุ้น 400 โรงงานเอสเอ็มอี เร่งบริหารจัดการคาร์บอนฟุตพรินต์ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นำร่องนำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้บันทึกข้อมูลคาร์บอนฟุตพรินต์ของธุรกิจ ก่อนนำข้อมูลไปวิเคราะห์ บริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เตรียมความพร้อมให้ภาคธุรกิจไทยปรับตัวได้เท่าทันกับโลกอนาคต ซึ่งไทยให้คำมั่นเวทีโลกจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปีพ.ศ.2603 (ค.ศ.2065)
นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลหรือดีป้า เปิดเผยว่า ดีป้าได้ร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เปิดตัวโครงการ Digital Grow Green ส่งเสริมให้เกิดการนำดิจิทัลโซลูชันมาประยุกต์ใช้ บริหารจัดการคาร์บอนฟุตพรินต์ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เริ่มด้วยการส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก(เอสเอ็มอี) 400 ราย นำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้บันทึกข้อมูลคาร์บอนฟุตพรินต์ของธุรกิจ ก่อนนำมาวิเคราะห์ บริหาร จัดการเพื่อนำไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปีพ.ศ.2603 (ค.ศ.2065)
...
“โครงการ Digital Grow Green จะสนับสนุนการใช้งานแพลตฟอร์มจัดการข้อมูลก๊าซเรือนกระจกแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีนำร่อง 400 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรงงานขนาดกลางถึงเล็ก ใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ ขอนแก่น อยุธยาและชลบุรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการจดบันทึกข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในองค์กร ก่อนนำข้อมูลมาวิเคราะห์และบูรณาการเป็นนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป”
นายณัฐพล กล่าวว่า ภาคธุรกิจไทยจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการคาร์บอนฟุตพรินต์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการค้าโลกในอนาคต ประเทศใดหรือเอกชนรายใดไม่รักษาสิ่งแวดล้อม ปล่อยคาร์บอนให้เป็นภาระโลก จะค้าขายไม่ได้หรืออาจถูกกีดกันทางการค้า โครงการ Digital Grow Green ที่ดีป้าและอบก.ร่วมกันทำ จะเป็นช่องทางในการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในการเร่ิมต้นนับ 1 ด้วยการวัดและจดบันทึกการปล่อยคาร์บอนของธุรกิจตน”
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ประกาศความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปีพ.ศ. 2593 (ค.ศ.2050) และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี พ.ศ. 2603 ตามที่ไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ไว้ในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Conference of the Parties: COP) ครั้งที่ 26 เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร
...
“โครงการ Digital Grow Green ไม่ได้มุ่งหวังให้ผู้ประกอบการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยทันที แต่ต้องการสร้างความตระหนักรู้ว่า ธุรกิจที่ทำอยู่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งก่อให้เกิดคาร์บอนฟุตพรินต์ในระดับที่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของภาวะโลกร้อนเพียงใด จึงพุ่งเป่้าส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ 400 ราย นำร่องนำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้บันทึกข้อมูลคาร์บอนฟุตพรินต์ของธุรกิจ ก่อนนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ บริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก่อนนำไปสู่การลดปริมาณ เป็นการเตรียมความพร้อมให้ภาคธุรกิจไทยปรับตัวได้เท่าทันกับโลกอนาคต”
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม