กรมการค้าต่างประเทศ เผยส่งออกข้าว ช่วง 8 เดือน ปี 68 ทำได้ 5.04 ล้านตัน ลด 23.98% เหตุผลผลิตข้าวโลกเพิ่ม อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ชะลอนำเข้า เงินบาทแข็ง ทำขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง ยังมั่นใจ ปี 68 จะส่งออกได้ตามเป้า 7.5 ล้านตัน ส่วนมันสำปะหลัง ส่งออก 6.37 ล้านตัน เพิ่ม 36.70% ทั้งปีเข้าเป้า 7.5 ล้านตันแน่นอน

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ปี 68 ไทยส่งออกข้าวปริมาณ 5.04 ล้านตัน ลดลง 23.98% จากช่วงเดียวกันของปี 67 ที่ส่งออก 6.63 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 2,987 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 99,061 ล้านบาท ลดลง 30.58% จากปี 67 ที่มีมูลค่า 4,303 ล้านเหรียญฯ (ประมาณ 153,913 ล้านบาท) เพราะผลผลิตข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้น กดดันราคา, ผู้นำเข้าสำคัญอย่างอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ชะลอการนำเข้า และค่าเงินบาทแข็งค่าถึง 7% ขณะที่ค่าเงินของอินเดียและเวียดนามอ่อนค่า 3-5% ส่งผลให้ไทยรั้งอันดับ 3 ผู้ส่งออกข้าวมากสุดในโลก รองจากอินเดีย และเวียดนาม ที่ช่วง 7 เดือนส่งออกได้กว่า 13 ล้านตัน และกว่า 5 ล้านตันตามลำดับ

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

...

อย่างไรก็ตาม แม้ส่งออกข้าวลดลง แต่ไทยส่งออกข้าวไปจีน สหรัฐฯ แอฟริกาใต้ ตะวันออกกลาง และยุโรปได้เพิ่มขึ้น โดยข้าวหอมมะลิไทย ข้าวนึ่ง ข้าวเหนียว และข้าวกล้อง ส่งออกเพิ่มขึ้น ส่วนข้าวขาว และข้าวหอมไทย ส่งออกลดลง เพราะการแข่งขันสูงทางด้านราคากับผู้ส่งออกสำคัญอย่างเวียดนาม อินเดีย และปากีสถาน สำหรับเป้าหมายปี 68 ที่ตั้งไว้ที่ 7.5 ล้านตัน หากจะส่งออกได้ตามเป้า ในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปี จะต้องส่งออกให้ได้เดือนละ 600,000 ตัน ซึ่งมีแนวโน้มทำได้ เพราะกรมได้เร่งรัดผลักดันการส่งออกข้าวอย่างเต็มที่ โดยล่าสุดได้ผลักดันจีนให้ซื้อข้าวตามสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในส่วนที่ค้างอยู่ 280,000 ตัน จากเป้าหมาย 1 ล้านตัน คาดว่า จะส่งมอบได้อย่างช้าภายในเดือน พ.ย.68 และขอให้ซื้อเพิ่มอีก 220,000 ตัน น่าจะมีความชัดเจนภายในเดือน ต.ค.68 และจะเริ่มส่งมอบในปี 69

ส่วนตลาดอื่นๆ จะต้อนรับคณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงเดือน พ.ย.68 ซึ่งจะผลักดันให้ซื้อข้าวไทย โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทย รวมทั้งจะเร่งรัดส่งออกข้าวขาวและข้าวนึ่งไปอิรัก และซาอุดีอาระเบีย, ทำบันทึกความตกลง (MOU) กับสิงคโปร์ ในการซื้อขายข้าว 100,000 ตัน และนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญในต่างประเทศ ทั้งซาอุดีอาระเบีย เยอรมนี และจีน เพื่อเพิ่มโอกาสและขยายช่องทางตลาดของข้าวไทยไปสู่ตลาดต่างประเทศให้เพิ่มขึ้น

นางอารดา กล่าวต่อถึงการส่งออกมันสำปะหลังในช่วง 8 เดือน ว่า มีปริมาณ 6.37 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 36.70% จากช่วงเดียวกันของปี 67 ที่ส่งออกได้เพียง 4.66 ล้านตัน มีมูลค่า 69,888.12 ล้านบาท ลดลง 12.93% จากปีก่อนที่มูลค่า 80,266.47 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการผลักดันการส่งออกไปยังจีน และซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นการกระตุ้นตลาดเดิมและเปิดตลาดใหม่ การจัดประชุมสัมมนามันสำปะหลังโลก ปี 68 ที่มีผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากทั่วโลกมาร่วมงาน และมียอดสั่งซื้อมากกว่า 10,000 ล้านบาท

สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ กรมจะเดินหน้าจัดกิจกรรมขยายตลาดส่งออกมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่อง มีแผนจัดคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนเดินทางไปเจรจาขยายตลาดที่ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จีน ทวีปอเมริกาเหนือ และทวีปยุโรป เป็นต้น เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้ามันสำปะหลังเข้าสู่อุตสาหกรรมต่อเนื่องที่หลากหลายมากขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเคมี กาว และกระดาษ รวมทั้งพาผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ เพื่อแนะนำสินค้าและเปิดตลาดให้กับมันสำปะหลังไทย โดยมั่นใจว่า ปีนี้จะส่งออกมันสำปะหลังได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 7.5 ล้านตันอย่างแน่นอน

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม