“ศุภจี” ปาฐกถาพิเศษงาน ฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน ชี้ 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้น ขอบคุณจีนนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทยมากเป็นอันดับ 1 อ้อนซื้อข้าว 2.8 แสนตัน ตามสัญญาจีทูจีให้จบ พร้อมชวนเที่ยวไทยช่วงหยุดยาว “Golden Week” ย้ำรัฐบาล-คนไทย พร้อมดูแลและต้อนรับอย่างดี

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยระหว่างการกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “Thailand – China Cooperation Expo 2025” ณ ห้องรอยัล จูบิลี อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน เมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 ก.ย.68 ว่า จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยต่อเนื่อง 12 ปีติดต่อกัน โดยการค้าระหว่างไทย–จีนช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ปีนี้ มีมูลค่ากว่า 96,254 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท ขยายตัวถึง 28.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้น

ดังนั้น ขอบคุณฝ่ายจีนที่เป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญยิ่งของไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรสำคัญ เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไย มันสำปะหลัง ยางพารา ฯลฯ และเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ช่วง 8 เดือนแรกนี้ จีนได้นำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงสะท้อนถึงความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างกัน

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์

...

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในปีแห่งการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน ปีนี้ ไทยและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการซื้อขายข้าว ในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่ยังค้างส่งมอบอีก 280,000 ตัน จากสัญญา 1 ล้านตัน ได้สำเร็จ ซึ่งจะเป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันแนบแน่นของสองประเทศ”

สำหรับด้านการลงทุน จีนยังคงเป็นนักลงทุนโดยตรงอันดับ 1 ในไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอนาคต เช่น พลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง และเทคโนโลยีชีวภาพ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว จีนยังคงเป็นตลาดหลักที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย โดยรัฐบาลไทยมุ่งมั่นสร้างความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวจีน และระหว่างนี้เป็นช่วงวันหยุดยาว “Golden Week” ของจีน จึงเป็นโอกาสอันดีที่นักท่องเที่ยวจีนจะมาเที่ยวเมืองไทย ขอให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลและประชาชนชาวไทยพร้อมต้อนรับและดูแลนักท่องเที่ยวจีนอย่างเต็มที่

นางศุภจี ยังกล่าวต่ออีกว่า นโยบายของรัฐบาล สอดคล้องกับความร่วมมือไทย–จีนใน 5 มิติสำคัญ ได้แก่ การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ เศรษฐกิจสีเขียวและพลังงานสะอาด เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล การเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร และการแลกเปลี่ยนประชาชนทั้งด้านการศึกษา วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว โดยกระทรวงพาณิชย์ยังคงผลักดันความร่วมมือด้านการค้าในทุกระดับ ทั้งภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน–จีน (ACFTA) ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) รวมถึงการทำบันทึกความร่วมมือ(MOU) กับมณฑลต่างๆ ของจีน ตลอดจนการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญในจีน เช่น China International Import Expo (CIIE) 2025 ที่นครเซี่ยงไฮ้ ขณะเดียวกัน ก็เชิญชวนผู้ประกอบการจีนเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในไทย เช่น Bangkok Gems & Jewelry Fair และ THAIFEX – ANUGA ASIA

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ มีสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศในจีนถึง 8 แห่ง ได้แก่ เฉิงตู คุนหมิง หนานหนิง กวางโจว เซี่ยเหมิน เซี่ยงไฮ้ ชิงต่าว และฮ่องกง รวมทั้งสำนักงานพาณิชย์ ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการกระชับ ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยและจีนอย่างใกล้ชิด

“รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ พร้อมเป็นสะพานเชื่อมโยง เพื่อเปิดประตูสู่การค้าการลงทุนระหว่างผู้ประกอบการและนักธุรกิจไทย – จีน ทั้งการช่วยผู้ประกอบการไทยให้สามารถดำเนินธุรกิจในตลาดจีนได้สะดวกยิ่งขึ้น และการช่วยสนับสนุนนักธุรกิจจีนที่เข้ามาลงทุนและค้าขายในไทย และจะเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของทั้งสองประเทศต่อไป”

สำหรับงาน “Thailand – China Cooperation Expo 2025” จัดโดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย–จีน สมาคมการค้าวิสาหกิจจีนในประเทศไทย ภายใต้ “คณะกลไกประสานงานและส่งเสริมธุรกิจไทย–จีนอย่างยั่งยืน” และบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด โดยได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตจีน และหน่วยงานภาครัฐไทยหลายแห่ง

...

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม