ศาลปกครองกลางยกฟ้องคดีที่สภาองค์กรของผู้บริโภคยื่นฟ้องมติบอร์ด กสทช. กรณีรับทราบวาระควบรวมกิจการทรูกับดีแทค มองการควบรวมทำให้เกิดการผูกขาดกระทบผู้บริโภค “สารี” ยันเดินหน้าอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค เปิดเผยเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2568 ว่า ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องคดีที่สภาองค์กรของผู้บริโภคยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรณีมีมติในการประชุมนัดพิเศษ รับทราบการควบรวมกิจการระหว่างบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ซึ่งถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพ.ย. 2564
น.ส.สารี กล่าวว่า แม้ศาลจะรับรองว่า สภาองค์กรของผู้บริโภคมีอำนาจในการฟ้องคดีได้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่กระทบสิทธิของผู้บริโภคโดยตรง อย่างไรก็ตาม ศาลเห็นว่ามติของ กสทช. ที่รับทราบการควบรวมดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย โดยศาลพิจารณาว่า การควบรวมธุรกิจไม่จำเป็นต้องขออนุญาตทุกกรณีเสมอไป ซึ่งการที่ กสทช. ใช้วิธี "รับทราบ" แทนการ "อนุญาต" ไม่ใช่การฝ่าฝืนกฎหมายแต่อย่างใด
นอกจากนั้น ศาลเห็นว่า การแต่งตั้งที่ปรึกษาอิสระ ซึ่งถูกฝ่ายผู้ฟ้องแย้งว่าไม่เป็นกลางและอาจมีความเชื่อมโยงกับเอกชนที่ควบรวมนั้น ไม่ได้ขัดต่อกฎหมายเช่นกัน เพราะถือเป็นขั้นตอนหนึ่งของการดำเนินการทางปกครองเท่านั้น และที่ปรึกษาอิสระยังได้รับการเห็นชอบ ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นด้วย
ศาลยังชี้ว่า การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนไม่ได้เป็นเงื่อนไขบังคับตามกฎหมายหรือระเบียบของ กสทช. สำหรับการออกมติของบอร์ด กสทช. ต่อการควบรวมธุรกิจครั้งนี้ ดังนั้นแม้จะไม่มีการเปิดเวทีรับฟังความเห็น ก็ไม่ถือว่าขัดต่อกฎหมาย
...
นอกจากนั้น ศาลยังตีตกประเด็นสำคัญอื่น ๆ ที่สภาองค์กรของผู้บริโภคหยิบยกมาฟ้อง รวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องการใช้เสียงข้างมากในการลงมติซ้ำ การตีความว่าเป็นธุรกิจเดียวกัน และการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเรื่องการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม ซึ่งศาลเห็นว่าไม่มีน้ำหนักเพียงพอ จึงมีคำพิพากษายกฟ้องคดีนี้
อย่างไรก็ตาม น.ส.สารี เปิดเผยว่า สภาองค์กรของผู้บริโภคยังสามารถใช้สิทธิในการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ต่อไป โดยยืนยันว่าจะเดินหน้าปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภคอย่างถึงที่สุดในกระบวนการยุติธรรมขั้นถัดไป
อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม