"ธนกร-ยศสิงห์" ตบเท้าเข้ากระทรวงอุตสาหกรรม ลั่น 120 วันจะทำงานเต็มที่ โดยเฉพาะช่วยเหลือเอสเอ็มอี พร้อมสานต่อทีม พร้อมลุยโรงงานผิดกฎหมาย จะต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ย. เวลา 09.09 น. ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นายธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม พร้อมด้วย จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงอุตสาหกรรม ก่อนเริ่มภารกิจอย่างเป็นทางการ โดยนายธนกร กล่าวว่า ตนเข้ารับตำแหน่งในช่วงสั้น ๆ เพียง 4 เดือน แต่ยืนยันจะทำงานทุกวันเพื่อคลี่คลายปัญหาเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรม

สำหรับภารกิจสำคัญคือการช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี ที่กำลังได้รับแรงกดดันจากสงครามการค้าและภาษีของสหรัฐฯ รวมถึงการแข่งขันจากสินค้าจีนที่ทะลักเข้ามาในประเทศไทย จึงต้องออกมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการและแก้ไขปัญหาหนี้ พร้อมเปิดทางเข้าถึงแหล่งทุน พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจะไม่ปล่อยให้มีการสวมสิทธิเอสเอ็มอี มาหาประโยชน์จากมาตรการแต้มต่อที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการส่งออก

ขณะที่นโยบายเก่าของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม จะถูกสานต่อ โดยเฉพาะยุทธศาสตร์การผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแนวทางทำสุดซอยจากทีมสุดซอย เพราะได้มีการวางรากฐานไว้แล้ว

“120 วันนี้ อุตสาหกรรมไทยต้องดีขึ้น โดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่ต้องเข้าถึงแหล่งทุนได้จริง ส่วนโรงงานอุตสาหกรรมที่ดีก็จะสนับสนุนให้เดินต่อไป แต่โรงงานที่ผิดกฎหมายต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาด”

ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญกับการเร่งผลักดัน พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กากอุตสาหกรรม ฉบับ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของกระทรวงการคลัง

...

ขณะที่ จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ตนจะเน้นลงพื้นที่เพื่อดูแลนิคมอุตสาหกรรม เพื่อป้องกันไม่ให้สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในชุมชน โดยจะกำชับให้หัวหน้าสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ ต้องร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมที่เสี่ยงต่อมลภาวะ ต้องมีการตรวจสอบการทำงานของโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเข้มข้น เป็นการป้องกันปัญหาล่วงหน้า

นโยบายหลัก ๆ ของตนคือการปิดและเปิดเร็ว คือ หากมีการกระทำผิดมีการปล่อยมลพิษก็ต้องถูกสั่งปิดทันที จากนั้นจะต้องแก้ไขให้ถูกต้อง ก็จะพิจารณาให้เปิดใหม่ได้ทันที แต่หากไม่สามารถแก้ไขได้ก็ต้องปิดกิจการตามกฎหมายเช่นกัน


อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม