สนค.เผย 8 เดือนแรกปีนี้ ไทยแห่นำเข้าทองคำกว่า 1.2 หมื่นล้านเหรียญฯ ส่งออกแค่ 8.7 พันล้านเหรียญฯ ขาดดุลมากถึงกว่า 4.1 พันล้านเหรียญฯ ขณะที่ส่งออกภาพรวมเดือน ส.ค.68 โต 5.8% เริ่มชะลอแล้วหลังสหรัฐฯเก็บภาษีตอบโต้ และมีแนวโน้มชะลอลง หลังหลายประเทศเร่งนำเข้าจนสต๊อกสินค้าเต็ม ค้าชายแดนมีปัญหา บาทแข็ง แต่ยังมั่นใจทั้งปีโตตามเป้า 2-3%

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึง สถิติการค้าทองคำระหว่างประเทศของไทยว่า ในช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ปี 68 ไทยส่งออกทองคำรวม 8,733.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 87.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นเงินบาทประมาณ 280,000 ล้านบาท ขณะที่การนำเข้า 12,928.4 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 39.5% หรือ 413,000 ล้านบาท ส่งผลให้ขาดดุลทองคำ 4,195 ล้านเหรียญฯ หรือ 135,000 ล้านบาท

“สาเหตุที่มียอดการค้าทองคำสูงขึ้นทั้งการนำเข้า และส่งออก เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้คนเข้ามาหาซื้อมากขึ้น ส่วนการเคลื่อนย้ายไปทางประเทศไหนมากนั้น มีหน่วยงานกำกับดูแล คอยติดตามอยู่แล้ว ขณะที่การส่งออกทองในเดือน ส.ค. อยู่ที่ 1,111 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 144% โดยส่งออกไปสวิตเซอร์แลนด์มากสุด 593 ล้านเหรียญฯ โต 177% ขณะที่กัมพูชาอันดับ 2 มูลค่า 197 ล้านเหรียญฯ โต 30.4%”

...

สำหรับการส่งออกทองคำ ช่วง 8 เดือนนั้น ประเทศที่ไทยส่งออกมาก 5 อันดับแรก คือ 

1. สวิตเซอร์แลนด์ 3,824 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 159% 

2. กัมพูชา 2,346 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 28.4% 

3. ลาว 1,177 ล้านเหรียญฯเพิ่มขึ้น 73.8% 

4.สิงคโปร์ 380 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 194.5% 

5. ฮ่องกง 316.3 ล้านเหรียญฯ ลดลง 19.4% 

ส่วนประเทศที่ไทยนำเข้า 5 อันดับแรก ได้แก่ 

1. จีน 3,352.6 ล้านเหรียญฯ ลดลง 13% 

2. สวิตเซอร์แลนด์ 2,696.9 ล้านเหรียญฯ ลดลง 3.9% 

3. ฮ่องกง 2,502 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 1,354% 

4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2,229.6 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 1,121% 

5. สิงคโปร์ 661.5 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 5.7%

นายพูนพงษ์ กล่าวต่อถึงการส่งออกของไทย เดือน ส.ค.68 ว่า มีมูลค่า 27,743.2 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 5.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 แต่เริ่มชะลอตัวลงมากขึ้น หลังจากมีการบังคับใช้อัตราภาษีศุลกากรต่างตอบแทนของสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ส.ค.68 จากที่ก่อนหน้านี้ มีการเร่งนำเข้า เมื่อคิดเป็นเงินบาทอยู่ที่ 889,014 ล้านบาท ส่วนการนำเข้า 29,707.6 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 15.8% หรือ 964,331 ล้านบาท ขาดดุลการค้า 1,964.4 ล้านเหรียญฯ หรือ 75,317 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 8 เดือน การส่งออก 223,175.8 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 13.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ 7.396 ล้านล้านบาท การนำเข้า 224,880.3 ล้านเหรียญฯ หรือ 7.544 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3% ขาดดุลการค้า 1,704.5 ล้านเหรียญฯ หรือ 148,582 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการส่งออก คาดว่า ตั้งแต่เดือน ก.ย.68 เป็นต้นไป จะเริ่มเห็นผลกระทบจากอัตราภาษีสหรัฐฯ ชัดเจนขึ้น หากส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 24,000-24,500 ล้านเหรียญฯในช่วง 4 เดือนที่เหลือ ก็จะทำให้ทั้งปี ขยายตัวติดลบ เพราะฐานปีก่อนสูง และยังมีปัญหาการส่งออกชะลอตัว จากการที่คู่ค้าได้เร่งนำเข้าก่อนหน้านี้และมีสต็อกสินค้าเต็ม การค้าชายแดนของไทยกับเพื่อนบ้านที่ยังมีปัญหา สินค้าเกษตรตลาดโลกเพิ่มขึ้น กระทบต่อราคาและการส่งออกของไทย รวมถึงค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง แต่ตัวเลขส่งออกทั้งปีนี้ ยังมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย 2-3% เพราะผ่านมา 8 เดือน ขยายตัวสูงที่ 13.3%

...

“การส่งออกเดือน ส.ค.68 ชะลอตัวลงอย่างชัดเจนในหลายตลาด อย่างสหรัฐฯ ที่เป็นตลาดสำคัญ ก่อนหน้านี้ เป็นช่วงลุ้นเรื่องอัตราภาษีว่าจะอยู่เท่าใด ก็มีการเร่งนำเข้า ทำให้ยอดส่งออกไปสหรัฐฯ เพิ่ม โดยเดือน มี.ค. เพิ่ม 34%, เม.ย. เพิ่ม 23%, พ.ค. เพิ่ม 35%, มิ.ย. เพิ่ม 42%, ก.ค. เพิ่ม 31.4% แต่มาเดือน ส.ค. เพิ่มในอัตราชะลอลง 12.8% คาดว่า อีก 4 เดือนที่เหลือ (ก.ย.-ธ.ค.) หลาย ๆ ตลาด จะลดลง และบางตลาดอาจจะกลับมาติดลบได้ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ต้องจับตา เพราะแม้จะขึ้นภาษี แต่ภาษีไทยเท่ากับคู่แข่ง ก็ยังแข่งขันได้”

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม