กสทช. เปิดแผนปี 2569 ปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ พิฆาตโจรออนไลน์ ป้องกันไม่ให้นำเอาใบอนุญาตที่กสทช.ออกให้ ไปใช้หาประโยชน์ที่ผิดกฎหมาย เพิ่มบทลงโทษไม่เพียงแค่มิติลักลอบประกอบกิจการ ซึ่งเป็นโทษสถานเบา แต่จะเพิ่มโทษหนักในมิติเอาใบอนุญาตไปก่ออาชญากรรมด้วย

พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2568 ในโอกาสเปิดการฝึกอบรม “การพัฒนาทักษะในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม” เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ ของสำนักงาน กสทช. รวมไปถึงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า ในปี 2569 กสทช. มีแผนปรับปรุงและพัฒนากฎหมายในส่วนที่ กสทช. รับผิดชอบให้ทันสมัย สอดรับกับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะกฎหมายที่จะช่วยป้องกันปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ภัยร้ายของสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เกิดการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยที่มีคุณภาพ ให้สามารถแข่งขันในกิจการสื่อสารได้อย่างเสรีและเป็นธรรม ป้องกันไม่ให้นำเอาใบอนุญาตประกอบกิจการไปแสวงหาผลประโยชน์อื่นที่มิชอบด้วยกฎหมาย

...

“เราจำเป็นต้องปรับปรุงบทลงโทษให้ได้สัดส่วนกับความเสียหายหรือผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสังคม เนื่องจากกฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มุ่งเน้นการลงโทษเฉพาะมิติของการลักลอบประกอบกิจการ แต่ยังขาดมิติของการนำบริการไปก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่าง ๆ เช่น อาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือการฟอกเงิน เป็นต้น เมื่อบทลงโทษไม่ได้สัดส่วนต่อความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดขึ้น คนผิดจึงไม่เกรงกลัว สำนักงาน กสทช. จึงต้องมองไปข้างหน้า ปรับปรุงกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว บังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพและทันท่วงที มุ่งเน้นไปที่กลุ่มอาชญากร โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้งานปกติ”

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา สำนักงาน กสทช. ได้ปรับปรุงประกาศและกฎระเบียบหลายฉบับ โดยเฉพาะ 8 มาตรการสำคัญ ที่ออกตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ 2568 ให้ค่ายมือถือร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ หากไม่ดำเนินการตามมาตรการป้องกันตามที่ กสทช. กำหนด ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว อย่างไรก็ตาม อาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและวิธีการอยู่ตลอดเวลา เช่น ล่าสุดพบว่ากลุ่มมิจฉาชีพได้นำทะเบียนนิติบุคคลมาจดทะเบียนซิมผีและเปิดบัญชีม้า หลอกประชาชน ทำให้การตรวจสอบมีความซับซ้อนมากกว่าเดิม รวมทั้งการใช้ AI ในการหลอกลวงทำให้เหยื่อหลงเชื่อง่ายขึ้น เป็นต้น


อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม