สนค.เผย ไทยส่งออกอาหารสุนัขและแมวขึ้นแท่นเบอร์ 2 ของโลก แนะพัฒนาสินค้าให้หลากหลายขึ้น เน้นอาหารสุขภาพ เสริมวิตามิน สัตว์เลี้ยงเด็ก สัตว์เลี้ยงชรา เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้วัตถุดิบในประเทศให้มากขึ้น เพื่อครองอันดับ 1 โลก

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ปี 67 ไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารสุนัขและแมว อันดับ 2 ของโลกอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยมูลค่า 2,677.03 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 29% เทียบกับปี 66 และมีสัดส่วน 10% ของมูลค่าส่งออกอาหารสุนัขและแมวของทั้งโลก ตามหลังเยอรมนี ที่มีมูลค่า 3,282.69 ล้านเหรียญฯ สัดส่วน 12.3%

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า

...

สำหรับช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) ปี 68 ไทยส่งออกแล้ว 1,685.74 ล้านเหรียญฯ ขยายตัว 10.72% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 67 โดยมีสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 มูลค่า 609.86 ล้านเหรียญฯ ขยายตัว 26% และแม้สหรัฐฯเก็บภาษีตอบโต้ไทยที่ 19% ไทยยังมีโอกาสแข่งขันด้านราคา แต่ยังคงต้องติดตามประเด็นเกณฑ์การสะสมถิ่นกำเนิดสินค้า (Local Content) ที่ต้องติดตามต่อไปว่า สินค้าดังกล่าวที่ผลิตจากไทย หากใช้วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศในสัดส่วนมากๆ จะรับสิทธิ์ส่งออกโดยเสียภาษีนำเข้าสหรัฐฯ 19% หรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีตลาดสำคัญอื่นๆ อีก ทั้งสหภาพยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลาง ฯลฯ

โดยปัจจัยสำคัญทำให้ไทยมีโอกาสขยายตลาดได้ในหลากหลายภูมิภาค เนื่องจากความนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร ทั้งจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นและสังคมที่มีขนาดครอบครัวเล็กลง ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ลำพังมักเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อน และคนรุ่นใหม่ที่มีบุตรช้าหรือไม่แต่งงานก็นิยมเลี้ยงสัตว์มากขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคหลายประเทศสนใจสินค้าจากต่างประเทศมากขึ้น มาจากเทรนด์การใส่ใจสุขภาพสัตว์เลี้ยง จึงสนใจสินค้าเกรดพรีเมียมจากต่างประเทศ รวมถึงสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น

“เพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการส่งออกที่อาจเกิดขึ้น ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพสินค้า สร้างมาตรฐานและภาพลักษณ์สินค้าไทยด้วยการวิจัยและพัฒนา เพิ่มสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศ สร้างสรรอาหารสัตว์เลี้ยงรูปแบบใหม่ๆ ที่เสริมสร้างสุขภาพและให้คุณค่าทางโภชนาการ เช่น อาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อสุขภาพ วิตามินสูง สัตว์เลี้ยงเด็ก สัตว์เลี้ยงป่วยหรือชรา อีกทั้งยังต้องให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสามารถเข้าถึงตลาดตามความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม แต่ละประเทศ ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของการส่งออกอาหารสุนัขและแมวของโลกได้ในไม่ช้า”

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม