กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ลงพื้นที่เขตพระนคร ย่านการค้าวัดโพธิ์ พบผู้ประกอบการแฟรนไชส์ และค้าปลีกของที่ระลึก ผู้ประกอบการโอดเศรษฐกิจทรุด ต้นทุนพุ่ง เดลิเวอรีแพลตฟอร์มโขกส่วนแบ่ง นักท่องเที่ยวหาย ทำทุนหายกำไรหด ร้องรัฐเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ใช้ “คนละครึ่ง” กระตุ้นใช้จ่าย คุยเดลิเวอรีลดค่าธรรมเนียม แก้ปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพจากต่างประเทศ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการแฟรนไชส์ในการส่งเสริมสนับสนุนของกรม และพบปะผู้ประกอบการค้าปลีก (จำหน่ายของที่ระลึก) ย่านวัดโพธิ์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและสิ่งที่ภาคเอกชนต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ โดยได้พบปะกับ บริษัท เฮียเล็กเกาเหลาหมูสามอย่าง จำกัด ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่อยู่ในการส่งเสริมสนับสนุน ซึ่งจากการพูดคุยทำให้ทราบว่า ผู้ประกอบการไทยกำลังเผชิญความท้าทายด้านเศรษฐกิจเป็นอันดับ 1 โดยเฉพาะกำลังซื้อที่ลดลงอย่างชัดเจน ผู้บริโภคระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น กระแสเงินสดของภาคธุรกิจลดลง ส่งผลถึงผลประกอบการระยะยาว

...

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาต้นทุนการผลิตและต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารที่ใช้ของสดจำนวนมากในแต่ละวัน ต้นทุนส่วนใหญ่หมดไปกับการซื้อวัตถุดิบ เมื่อต้นทุนสูงขึ้นแต่ราคาจำหน่ายยังคงเท่าเดิม ทำให้กำไรลดลงมาก จึงต้องทบทวนกระบวนการบริหารจัดการธุรกิจให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ปรับลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น และใช้ระบบการบริหารต้นทุนที่รอบคอบและรัดกุมมากขึ้น โดยไม่ลดจำนวนพนักงาน แต่ใช้การเกลี่ยงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และไม่ซ้ำเติมระบบเศรษฐกิจให้แย่ลงไปกว่าเดิม

ขณะเดียวกัน ยังมีเรื่อง เดลิเวอรีแพลตฟอร์มที่เป็นดาบสองคมของผู้ประกอบการ ทำให้ต้องแบกรับภาระมากขึ้น แม้ว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น เพราะต้องแบ่งรายได้กว่า 30% ให้กับแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ ซึ่งถือว่าเป็นต้นทุนที่มากถึงเกือบ 1 ใน 3 ของรายได้ที่ได้รับ ดังนั้น ต้องการให้ภาครัฐ เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยนโยบายกระตุ้นกำลังซื้อระยะสั้น ที่ช่วยให้เงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบทันที เช่น โครงการคนละครึ่ง ฯลฯ การบริหารจัดการเชิงนโยบายที่รวดเร็วเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะปานกลางและระยะยาว ส่งเสริมให้บรรยากาศการลงทุนไม่หยุดชะงัก รวมถึงประสานเดลิเวอรีแพลตฟอร์มให้ช่วยลดค่าธรรมเนียม หรือจัดโปรโมชันพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ เพื่อช่วยเพิ่มยอดขาย และลดภาระด้านต้นทุนของธุรกิจลง

“ผู้ประกอบการบอกว่า แม้ต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน แต่ก็เป็นไปตามวัฏจักรของธุรกิจ มีล้มก็มีลุก ผู้ประกอบการจึงไม่ควรท้อถอย แต่ต้องเร่งพัฒนาระบบการบริหารจัดการธุรกิจให้สอดรับกับทุกสถานการณ์ รวมถึง นำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดการธุรกิจทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน เพื่อช่วยลดต้นทุน ส่วนธุรกิจแฟรนไชส์ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจและนักลงทุนทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และบริการ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี”

สำหรับย่านการค้าวัดโพธิ์ จากการพูดคุย พบว่า เศรษฐกิจถดถอยเป็นปัญหาหลัก นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีนลดลง แต่ยังมียุโรปและตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สินค้าไทยอาจได้รับผลกระทบจากสินค้าด้อยคุณภาพจากต่างประเทศแอบเข้ามาขายปะปนด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้าด้อยคุณภาพนั้นไป แล้วคิดว่าเป็นสินค้าไทย ก็จะทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้าไทยเสียหายตามไปด้วย จึงต้องการให้ภาครัฐเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ เชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น และปราบปรามสินค้าด้อยคุณภาพจากต่างประเทศให้หมดไป

...

นางอรมน กล่าวว่า หลังจากทราบปัญหาและอุปสรรคของผู้ประกอบการแล้ว กรมจะเร่งสรุปปัญหา-อุปสรรค ความต้องการของภาคธุรกิจ พร้อมจัดทำแผนพัฒนาและสนับสนุนธุรกิจแต่ละพื้นที่อย่างครบวงจร โดยเน้นความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ รวมทั้งจะส่งเสริมให้ภาคธุรกิจนำนวัตกรรมมาใช้เพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจ พัฒนาหลักสูตรการอบรมของกรม ให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันและความต้องการของภาคธุรกิจ


อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม