"อาเซียน-แคนาดา" เตรียมชง รมต.เศรษฐกิจ ที่จะประชุมเดือน ก.ย.นี้ ที่มาเลเซีย เลื่อนปิดดีลเจรจาเอฟทีเอ เป็นปี 69 จากเป้าเดิมปี 68 เหตุยังสรุปผลไม่ได้หลายข้อบทโดยเฉพาะประเด็นการค้าสินค้า ค้าบริการ และลงทุน

นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-แคนาดา รอบที่ 15 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 1-5 ก.ย.68 ณ กรุงเทพฯ เพื่อขับเคลื่อนการเจรจาความตกลงในประเด็นต่างๆ โดยจะรายงานความคืบหน้าการเจรจาฯ ต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-แคนาดา ในเดือนก.ย.นี้ ทั้งนี้ ได้เห็นพ้องร่วมกันในการปรับเป้าหมายแผนดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 69 จากเป้าหมายเดิมปี 68 หากเจรจาสำเร็จ จะเป็น เอฟทีเอแรกของไทยและอาเซียนกับประเทศในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการขยายมูลค่าการค้าทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาคที่ปัจจุบันมีมูลค่าถึงปีละกว่า 23,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

...

“สาเหตุที่ต้องเลื่อนการปิดดีล เพราะ คณะทำงานการเจรจาหลายกลุ่ม จากทั้งหมด 19 กลุ่ม ยังมีความคืบหน้าล่าช้ากว่าเป้าหมายที่กำหนด โดยเฉพาะด้านการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเจรจา จึงจำเป็นต้องหารือเพื่อให้ได้ข้อยุติที่สามารถยอมรับและเกิดผลประโยชน์ร่วมกัน ดังนั้น ทั้ง 2 ฝ่ายจึงเห็นพ้องร่วมกันที่จะเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-แคนาดา ช่วงปลายเดือนก.ย.68 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบการปรับเป้าหมายและแผนงานเพื่อขยายระยะเวลาการสรุปผลการเจรจาจากเดิมปี 68 เป็นภายในปี 69”

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ให้แนวทางขับเคลื่อนการเจรจากับคณะทำงานกลุ่มต่างๆ อาทิ เร่งสรุปผลการเจรจาเปิดตลาดการค้าสินค้า บริการ และการลงทุน ผลักดันให้สามารถสรุปผลข้อบทให้ได้มากที่สุด หยิบยกประเด็นที่ติดขัดให้คณะกรรมการเจรจาเอฟทีเอชุดใหญ่ ให้แนวทางแก้ไข พร้อมทั้งผลักดันให้มีการประชุมทั้งในรูปแบบออนไลน์ และการประชุมทางกายภาพให้มากที่สุด เพื่อให้สามารถสรุปผลการเจรจาได้ทันตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยล่าสุด คณะทำงาน 6 กลุ่ม สามารถสรุปผลการเจรจาข้อบทได้แล้ว 6 บท ได้แก่ การเคลื่อนย้ายชั่วคราวของบุคคลธรรมดา, การกำกับการบริหารจัดการเอฟทีเอ, วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม, การแข่งขัน, พิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า และแนวปฏิบัติที่ดีในการออกกฎหมาย รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อเสนอเปิดตลาดการค้าสินค้าระหว่างกันแล้ว

นางสาวโชติมา กล่าวว่า ไทยพร้อมสนับสนุนเอฟทีเออาเซียน-แคนาดาให้บรรลุผลสำเร็จโดยเร็ว ซึ่งจะเป็น เอฟทีเอแรกของไทย และอาเซียนกับประเทศในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ภาคธุรกิจ ขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนที่เชื่อมโยงทั้ง 2 ภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์การค้าโลกและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ทำให้แต่ละประเทศหันมามองหาพันธมิตรตลาดใหม่ๆ และเร่งขยายเอฟทีเอในกรอบต่างๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงและรักษาระดับการส่งออก ขณะเดียวกัน แคนาดาก็ให้ความสำคัญกับภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ดังนั้น การสรุปผลการเจรจาฉบับนี้โดยเร็ว จะช่วยขยายโอกาสทางเศรษฐกิจร่วมกันของทั้งสองภูมิภาค โดยเฉพาะในด้านการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน

...

ทั้งนี้ ช่วง 7 เดือน (ม.ค.–ก.ค.) ปีนี้ การค้าของไทยและแคนาดา มีมูลค่า 2,186.71 ล้านเหรียญฯ โดยไทยส่งออกไปแคนาดา 1,461.66 ล้านเหรียญฯ และไทยนำเข้า 725.05 ล้านเหรียญฯ

อ่านข่าว "นโยบายรัฐ" เพิ่มเติม