เจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักรกำลังตรวจสอบอาคารสูง 600 แห่งทั่วประเทศ หลังเกิดไฟไหม้ตึกเกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ โดยจนถึงตอนนี้ พบตึกที่ใช้วัสดุหุ้มภายนอกอาคารที่ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยแล้วถึง 181 แห่ง...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการสหราชอาณาจักรกำลังตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของอาคารสูงจำนวนกว่า 600 แห่งทั่วประเทศ หลังเกิดเหตุไฟไหม้ตึก ‘เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์’ เมื่อ 14 มิ.ย. จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 80 คน และเชื่อว่า วัสดุหุ้มภายนอกอาคารเป็นปัจจัยที่ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว โดยผลการตรวจสอบจนถึงตอนนี้พบว่า มีอาคารสูงถึง 181 แห่งที่ใช้วัสดุหุ้มภายนอกอาคารที่ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย

อาคารทั้ง 181 แห่ง อยู่ใน 51 เขตการปกครอง โดยเมืองที่มีตึกไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยมากที่สุดคือเมืองซัลฟอร์ด ไม่ผ่านจำนวน 29 ตึก อย่างไรก็ตาม มีความกังวลเกิดขึ้นว่า จำนวนตัวเลขออาคารที่ไม่ปลอดภัยอาจเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้อีก และนอกจากอาคารที่อยู่อาศัยแล้ว ยังมีโรงพยาบาลอีก 36 แห่ง บ้านพักคนชรา, ศูนย์ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย และโรงพยาบาลเอกชนอีกกว่า 17,000 แห่ง ที่ทางการแนะนำให้ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย ไม่รวมหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัยต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง

...

ทั้งนี้ วัสดุหุ้มภายนอกอาคารถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มการป้องกันไฟไหม้และตกแต่งอาคารให้ดูสวยงาม ซึ่งตึก เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ ได้รับการตกแต่งใหม่ตามแผนงานมูลค่า 10 ล้านปอนด์ ซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อเดือนพ.ค. ไม่กี่สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว ‘เดอะ ไทม์ส’ รายงานอ้างข้อมูลจากเอกสารที่รั่วไหลออกมาว่า เจ้าหน้าที่ใช้วัสดุหุ้มภายนอกอาคารที่ระดับต่ำกว่าที่ควรจะเป็นเพื่อลดต้นทุน

เดอะ ไทม์ส ระบุว่า อีเมลขององค์กรบริหารผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์เขตเคนซิงตันและเชลซี (เคซีทีเอ็มโอ) แสดงให้เห็นว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนในการตกแต่งอาคารมากเป็นอันดับ 1 และการลดระดับคุณภาพของวัสดุหุ้มภายนอกอาคารก็ทำให้พวกเขาประหยัดเงินไปได้ถึง 293,000 ปอนด์ (ราว 12.9 ล้านบาท)

อนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า อาจต้องใช้เวลาถึงสิ้นปี 2017 จึงจะสามารถยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจากเหตุเพลิงไหม้ตึกเกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ได้ ขณะที่การพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของศพผู้เสียชีวิตทำได้อย่างยากลำบาก และบางศพอาจไม่สามารถระบุตัวได้ตลอดไป