บริษัท ไมโครซอฟท์ ผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลก เผยว่า การโจมตีทางไซเบอร์ของมัลแวร์ ‘เพตยา’ (Petya) ลุกลามไปใน 65 ประเทศทั่วโลกแล้ว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังหาทางหยุดไวรัสคอมพิวเตอร์ตัวนี้...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างการเปิดเผยของบริษัท ไมโครซอฟท์ว่า ขณะนี้ไวรัสคอมพิวเตอร์เรียกค่าไถ่ ‘เพตยา’ ได้ลุกลามไปใน 65 ประเทศทั่วโลกแล้ว รวมทั้งเบลเยียม, บราซิล, เยอรมนี, รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา แต่พวกเขาสืบพบว่าต้นตอมาจากซอฟต์แวร์บัญชีภาษีของบริษัทแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า ‘M.E.Doc’ ในประเทศยูเครน ซึ่งได้รับผลกระทบจากไวรัสตัวนี้มากที่สุด และมีเครื่องจักรเสี่ยงถูกเล่นงานมากกว่า 12,500 เครื่อง
จนถึงตอนนี้ ไวรัสเพตยา ยังส่งผลกระทบต่อสนามบินต่างๆ รวมทั้งตู้เอทีเอ็มในประเทศยูเครน รวมทั้งกระทบธุรกิจระหว่างประเทศอย่างบริษัทขนส่ง ‘Maersk’ ไปจนถึงบริษัทเภสัชกรรม ‘Merck’ นอกจากนี้ยังส่งผลไปถึงคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลหลายแห่งในรัฐเพนซิลเวเนียด้วย
ทั้งนี้ มัลแวร์ เพตยา ถูกนำไปเปรียบเทียบกับมัลแวร์ ‘วันนาคราย’ (WannaCry) ซึ่งแพร่กระจายใน 150 ประเทศทั่วโลกเมื่อเดือนก่อน แต่จนถึงตอนนี้ดูเหมือนว่า เพตยาจะมีอัตราการแพร่กระจายที่ต่ำกว่ามาก โดยมีสิ่งที่เหมือนกันคือ มันจะเข้ารหัสล็อกไฟล์ต่างๆ ในคอมพิวเตอร์ และเรียกร้องเงินค่าไถ่เป็นเงินออนไลน์ ‘บิตคอยน์’ มูลค่าเริ่มต้นที่ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ
...
แต่สิ่งที่ต่างกันคือ บริษัทอีเมล ‘ปาสตีโอ’ ของเยอรมนี บล็อกที่อยู่อีเมลที่แฮกเกอร์ระบุให้ใช้เป็นช่องทางยืนยันการจ่ายเงิน ทำให้เจ้าของไฟล์ต่างๆ ที่ถูกล็อก จะไม่ได้รับรหัสปลดล็อกเมื่อจ่ายเงินค่าไถ่ไปแล้ว นอกจากนี้ วันนาคราย ยังมีสิ่งที่เรียกว่า ‘สวิตช์สังหาร’ (kill switch) ซึ่งสามารถหยุดการทำงานของวันนาครายได้ แต่เพตยาไม่มี หรือยังหาไม่เจอ ซึ่งเหล่าผู้เชี่ยวชาญกำลังหาหนทางหยุดไวรัสตัวนี้อยู่อย่างมีประสิทธิภาพ
นาย อามิต เซอร์เปอร์ นักวิจัยด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ของบริษัท ‘ไซเบอร์รีซึน’ พบวิธีที่คล้ายกับเป็นวัคซีนให้แก่คอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัส ด้วยการใช้วิธีหลอกให้มัลแวร์คิดว่ามันสามารถยึดคอมพิวเตอร์นั้นๆ ได้แล้ว ซึ่งช่วยไม่ให้ไฟล์ถูกล็อกได้ แต่นายเซอร์เปอร์ระบุว่า นี่เป็นเพียงทางแก้ชั่วคราวเท่านั้น