สื่อในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2553-55 เคยเกิดกรณีสายลับของสหรัฐฯ ในจีนถูกสังหารหรือจับกุมเป็นจำนวนมาก ทำให้การข่าวกรองของสหรัฐฯ ในจีนขาดหายไปช่วงหนึ่ง...

สำนักข่าวนิวยอร์ก ไทม์ส ของสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันเสาร์ที่ 20 พ.ค. โดยอ้างการเปิดเผยจากอดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอ 4 คนว่า ทางการจีนดำเนินการสังหารหรือจำคุกแหล่งข่าวที่คอยป้อนข้อมูลให้แก่สำนักงานข่าวกรองกลาง หรือ ซีไอเอ (CIA) ของสหรัฐฯ จำนวน 18-20 คนในช่วงปี พ.ศ. 2553-2555 ส่งผลกระทบต่อการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองในจีนของสหรัฐฯ ที่ใช้เวลาสร้างมาหลายปี

อดีตซีไอเอระบุว่า เจ้าหน้าที่ในจีนเริ่มตื่นตัวเรื่องสายลับสหรัฐฯ ในปี 2553 หลังจากซีไอเอได้รับข้อมูลระดับสูงเกี่ยวกับรัฐบาลจีนจากแหล่งข่าววงในของรัฐบาล รวมทั้งจากประชาชนที่ไม่พอใจเรื่องการคอร์รัปชัน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากแหล่งข่าวเริ่มลดลงในปี 2553 และหายไปในช่วงต้นปี 2554 มีรายงานด้วยว่า แหล่งข่าวรายหนึ่งถูกยิงตายที่หน้าตึกรัฐบาลในจีนด้วย โดยเชื่อว่าเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู

การหายไปของแหล่งข่าว ทำให้ซีไอเอตัดสินใจร่วมมือกับสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ (FBI) เพื่อสืบสวนหาสาเหตุที่ทำให้แหล่งข่าวถูกเปิดเผยตัว โดยตรวจสอบปฏิบัติการทั้งหมดของพวกเขาในกรุงปักกิ่ง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนในสถานทูตสหรัฐฯ และพบผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอที่เคยทำงานในแผนกติดตามสถานการณ์ในจีน แต่พวกเขาไม่มีหลักฐานมากพอจะจับชายคนนี้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สืบสวนบางส่วนเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้ข้อมูลรั่วไหลอาจเป็นเพราะจีนสามารถเจาะระบบการสื่อสารของซีไอเอได้ หรืออาจเกิดจากความประมาทในการทำงานเอง

ทั้งนี้ จนถึงปี 2556 หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ก็มีข้อสรุปว่า ขีดความสามารถของจีนในการระบุตัวสายลับของพวกเขาลดน้อยลงแล้ว และซีไอเอกำลังพยายามสร้างเครือข่ายสายลับใหม่ในจีนอยู่

...