แอมเนสตี้ฯ เปิดตัวโครงการรณรงค์ ‘กล้า’ เรียกร้องยุติการปราบปราม ข่มขู่ คุกคาม และทำร้าย บรรดาผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดต่อสู้กับความอยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นนักกฎหมาย นักข่าว และนักปกป้องสิทธิมนุษยชน

เมื่อ 16 พ.ค. แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัวโครงการรณรงค์ใหม่ทั่วโลก ที่มีชื่อว่า ‘กล้า’ (BRAVE) เพื่อเรียกร้องให้ยุติการโจมตีอย่างต่อเนื่องต่อผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดต่อสู้กับความอยุติธรรม โดยเผยว่า ปัจจุบันแกนนำชุมชน นักกฎหมาย ผู้สื่อข่าว และนักปกป้องสิทธิมนุษยชนอื่นๆ ทั่วโลก เผชิญกับการปราบปราม การคุกคาม และความรุนแรงในระดับที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จึงเรียกร้องให้รัฐต่างๆ ยอมรับการกระทำที่ชอบธรรมของคนที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีและสิทธิอันเท่าเทียมของคนทุกคน และประกันเสรีภาพและความปลอดภัยของพวกเขา

ปัจจุบันกว่า 68 ประเทศทั่วโลก ที่นักปกป้องสิทธิมนุษยชนถูกจับกุมหรือถูกควบคุมตัวโดยพลการ เพียงเพราะการทำงานตามหลักสันติวิธีของพวกเขา และมีมากกว่า 94 ประเทศทั่วโลกที่นักปกป้องสิทธิมนุษยชนถูกคุกคามและโดนทำร้าย นักปกป้องสิทธิมนุษยชนทั่วโลกถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากร เป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ หรือแม้กระทั่งถูกกล่าวหาว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงต่อการพัฒนาหรือต่อคุณค่าดั้งเดิมของประเทศ

ในรายงานฉบับใหม่ที่ชื่อว่า “การคุกคามนักปกป้องสิทธิมนุษยชน–พื้นที่ภาคประชาสังคมที่ถูกบีบให้เล็กลง” ซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้พร้อมกับโครงการรณรงค์โครงการใหม่ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเปิดเผยให้เห็นถึงภัยที่เกิดขึ้นกับนักปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยมีความพยายามพุ่งโจมตีพวกเขาถึงขั้นทำให้เสียชีวิตมากขึ้น จากข้อมูลขององค์กรภาคประชาสังคมอย่าง Front Line Defenders ระบุว่าในปี 2559 มีผู้ถูกสังหาร 281 คนทั่วโลก จากการลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่มียอด 156 คน

...

ทั้งนี้ สถิติสำคัญเกี่ยวกับนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในปี 2559

- อย่างน้อย 22 ประเทศ มีการสังหารบุคคลที่เรียกร้องสิทธิมนุษยชนอย่างสงบ

- ใน 63 ประเทศ มีการสร้างข่าวเท็จเพื่อทำให้ภาพพจน์ของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนเสียหาย

- ใน 68 ประเทศ มีการจับกุมหรือควบคุมตัวนักปกป้องสิทธิมนุษยชนเพียงเพราะการทำงานอย่างสงบ

- ใน 94 ประเทศ มีการคุกคามหรือโจมตีนักปกป้องสิทธิมนุษยชน