กองทัพเกาหลีเหนือจัดขบวนเดินสวนสนามโชว์อาวุธต่างๆ รวมทั้งขีปนาวุธรุ่นใหม่ เพื่อแสดงแสนยานุภาพเนื่องในวันวันคล้ายวันเกิดอายุ 105 ปี ของอดีตผู้นำ คิม อิล-ซุง เมื่อวันเสาร์...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 15 เม.ย. กองทัพของประเทศเกาหลีเหนือจัดขบวนเดินสวนสนามแสดงแสนยานุภาพของกองทัพในกรุงเปียงยาง เนื่องในวันคล้ายวันเกิดอายุ 105 ปี ของประธานาธิบดี คิม อิล-ซุง ผู้ก่อตั้งประเทศผู้ล่วงลับ และปู่ของคิม จอง-อึน ผู้นำคนปัจจุบัน โดยพวกเขาแสดงขีปนาวุธรุ่นใหม่ ที่เชื่อว่าเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลและขีปนาวุธชนิดยิงจากเรือดำน้ำด้วย

พิธีสวนสนามในวันที่เกาหลีเหนือเรียกว่า ‘วันแห่งดวงตะวัน’ นี้ ขึ้นที่จัตุรัสคิม อิล-ซุง ในกรุงเปียงยาง โดยคิม จอง-อึน มารวมเป็นสักขีพยานชมการเดินขบวนของเหล่าทหาร, วงดุริยางค์ รวมทั้งรถถัง, จรวดและอาวุธต่างๆ และมีเครื่องบินรบแสดงโชว์บินผาดแผลงในรูปแบบต่างๆ อยู่บนท้องฟ้า

ในพิธีสวนสนาม เกาหลีเหนือเปิดตัวขีปนาวุธที่เชื่อว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ชื่อว่า ‘เคเอ็น-08’ จำนวน 2 ลูก โดยนาง เมลิสซา ฮาแนม นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันมิดเดิลบิวรีเพื่อการศึกษาระหว่างประเทศ ในแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า เกาหลีเหนือกำลังพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปแบบใหม่ อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือมักจัดแสดงมิสไซล์ใหม่ๆ ในพิธีสวนสนาม ก่อนที่จะมีการทดสอบยิงจริงๆ

...

เกาหลีเหนือยังเปิดตัวขีปนาวุธ ‘ปุกกุกซง’ ชนิดติดตั้งบนเรือดำน้ำซึ่งมีพิสัยทำการราว 1,000 กม. เป็นครั้งแรกด้วย โดยนาย โจชัว พอลแลค บรรณาธิการของวารสาร ‘Nonproliferation Review’ ระบุว่า การจัดแสดงขีปนาวุธ ปุกกุกซง มากกว่า 1 ชนิด บ่งชี้ว่า เกาหลีเหนือกำลังมีความก้าวหน้าในโครงการขีปนาวุธบินเรือดำน้ำ ซึ่งยากที่จะตรวจจับได้

ทั้งนี้ การแสดงแสนยานุภาพครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นในขณะที่ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเพิ่มสูงขึ้น จากการทดสอบยิงขีปนาวุธอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลเปียงยาง โดยไม่สนมติห้ามปรามจากสหประชาชาติ และคำเตือนของพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดอย่าง จีน ซึ่งไม่ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเป็นตัวแทนเข้าร่วมพิธีสวนสนามเหมือนปีก่อนๆ

ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน คาร์ล วินสัน เข้าสู่คาบสมุทรเกาหลี เพื่อปรามรัฐบาลคิม และการที่สหรัฐฯ ตัดสินใจยิงจรวดโทมาฮอว์กโจมตีฐานทัพซีเรียอย่างไม่ลังเลเมื่อไม่นานมานี้ ก็ทำให้เกิดกระแสวิตกว่า พวกเขาอาจทำแบบเดียวกันกับเกาหลีเหนือด้วย