ผู้แทนประเทศจีนและเกาหลีใต้เห็นชอบร่วมกัน ว่าจะออกมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงยิ่งขึ้นต่อเกาหลีเหนือหากยังทดสอบขีปนาวุธหรืออาวุธนิวเคลียร์โดยไม่สนคำเตือนของชาวโลก...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้แทนประเทศจีนและเกาหลีใต้เห็นชอบร่วมกันในวันจันทร์ที่ 10 เม.ย. ว่า พวกเขาจะออกมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงยิ่งขึ้นต่อเกาหลีเหนือ หากยังพวกเขาดำเนินการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปหรือทดลองอาวุธนิวเคลียร์อีก คาดว่าเพื่อปรามรัฐบาลเปียงยางไม่ให้กระทำการยั่วยุในการฉลองวันชาติในวันที่ 15 เม.ย.นี้

เมื่อวันจันทร์ นายวู ต้าเว่ย ทูตระดับสูงของจีนพบกับนายคิม ฮง-คยุน ทูตเกาหลีใต้ ที่กรุงโซล เพื่อหารือว่าจะทำอย่างไรเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่คืบหน้าขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนายคิมกล่าวหลังการหารือว่า “ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันว่า หากเกาหลีเหนือยังคงกระทำการยั่วยุทางยุทธศาสตร์เช่น ทดลองนิวเคลียร์หรือยิงขีปนาวุธข้ามทวีป ถ้าจะมีคำเตือนจากประชาชนนานาชาติ ก็ควรจะมีการคว่ำบาตรเพิ่มเติมอย่างรุนแรง ตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ”

...

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นหลังจาก ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกคำสั่งส่งเรือรรทุกเครื่องบิน ‘คาร์ล วินสัน’ และเรือรบอีกหลายลำไปยังน่านน้ำใกล้คาบสมุทรเกาหลี หลังเพิ่งสั่งยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพในซีเรียเพื่อตอบโต้กรณีที่รัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมีกับประชาชน จนถูกเกาหลีเหนือออกมาประณาม และบอกว่าคิดถูกแล้วที่พวกเขามีโครงการนิวเคลียร์

อย่างไรก็ตาม นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า การโจมตีทางทหารของสหรัฐฯ ในซีเรีย เป็นการส่งสัญญาณถึงประเทศอื่นๆ ว่า การตอบโต้เช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้หากประเทศเหล่านั้นมีท่าทีเป็นอันตราย ทำให้เกิดความกังวลว่า สหรัฐฯ อาจใช้กำลังทหารกับเกาหลีเหนือ ซึ่งนายคิมกล่าวว่า เขากับนายวู ไม่ได้หารือกันในเรื่องนี้