ประธานาธิบดีปูติน ตอบโต้ ผู้นำสหรัฐฯสั่งระดมยิงขีปนาวุธ ‘โทมาฮอว์ก’ จากเรือพิฆาตถล่มฐานทัพซีเรีย ชี้ฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ และจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯอย่างหนัก ขณะที่อิหร่านขยับ ประณามสหรัฐฯอย่างรุนแรง

เมื่อ 7 เม.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าปฏิกิริยาผู้นำโลก โดยเฉพาะรัสเซีย และซีเรีย หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ​สุดกร้าว ยกระดับปฏิบัติการในซีเรีย ออกคำสั่งให้กองทัพระดมยิงขีปนาวุธร่อนนำวิถีพิสัยไกล ‘โทมาฮอว์ก’ นับ 59 ลูก จากเรือพิฆาต ยูเอสเอส รอสส์ (USS ROSS) ที่ประจำการอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โจมตีฐานทัพอากาศซีเรียเมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 7 เม.ย. เพื่อตอบโต้ที่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด สั่งใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าพลเรือนผู้บริสุทธิ์ในจังหวัดอิดลิบ ซึ่งฝ่ายกบฏยึดครองอยู่ ดับสลดเกือบ 100 รายนั้น

รอยเตอร์ แจ้งว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งถือเป็นชาติมหาอำนาจที่เป็นพันธมิตรกับรัฐบาลซีเรียได้ออกมาตอบโต้สหรัฐฯที่ยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์กถล่มฐานทัพอากาศ Shayrat (เชย์รัต)ในเมืองฮอมส์แล้ว ขณะที่กำลังทหารรัสเซียก็ประจำการอยู่ที่ฐานทัพแห่งนี้เช่นกัน โดยรัสเซีย เชื่อว่า การโจมตีด้วยโทมาฮอว์กของสหรัฐฯ เป็นการฝ่าฝืนกฏหมายระหว่างประเทศ และจะกระทบต่อควมสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯอย่างร้ายแรง โดยรัสเซีย เรียกการโจมตีด้วยขีปนาวุธของสหรัฐฯว่า เป็นการกระทำที่ก้าวร้าวต่อชาติที่มีอธิปไตย และเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ พร้อมขู่ที่จะยุติความร่วมมือทางทหารกับสหรัฐฯ ขณะที่เอพี รายงานว่า สมาชิกสภาอาวุโสคนหนึ่งของรัสเซีย ถึงกับกล่าวว่า การที่กองทัพสหรัฐฯยิงโทมาฮอว์กถล่มฐานทัพซีเรีย ทำให้ความหวังของความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซียในซีเรียสิ้นสุดลง

...

ก่อนหน้านี้ นายอเล็กซี พุชคอฟ ประธานคณะกรรมาธิการนโยบายข้อมูลของสภาสูงรัสเซีย ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์ว่า ถ้าหากทรัมป์สั่งใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรีย ก็จะผลักให้เขาไปสู่สมาคมเดียวกับอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และบารัค โอบามา ขณะที่ นายวลาดิเมียร์ ซาฟรอนคอฟ รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ เตือนสหรัฐฯก่อนหน้าเช่นกัน ให้คิดทบทวนให้ดีต่อการใช้กำลังทางทหาร ในอิรัก ลิเบีย และประเทศอื่นๆ

ด้านรัฐบาลอิหร่าน ซึ่งเป็นชาติที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับสหรัฐฯ​ถึงกับออกมาประณามอย่างรุนแรงที่สหรัฐฯยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์กโจมตีฐานทัพซีเรีย เพราะการกระทำเช่นนี้จะยิ่งทำให้การก่อการร้ายในซีเรียเข้มแข็งขึ้น และจะยิ่งทำให้สถานการณ์ในซีเรีย รวมทั้งตะวันออกกลางยุ่งยากมากขึ้น.

ข่าวเกี่ยวข้อง