รัสเซียโดนดี คนร้ายจุดชนวนบึมรถไฟใต้ดินในนครเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก 2 จุด ยังดีระเบิดทำงานแค่ลูกเดียว แต่ส่งผลเบื้องต้นตายอย่างน้อย 10 ศพ บาดเจ็บครึ่งร้อย นอนจมกองเลือดเกลื่อนชานชาลา ด้านประธานาธิบดีปูตินที่อยู่ในเมืองขณะเกิดเหตุสั่งสอบสวนทุกมิติ ยังไม่ฟันธงเป็นการก่อการร้าย พร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัวเหยื่อ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นภายในโบกี้ขบวนรถไฟโดยสารใต้ดินในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของรัสเซีย ซึ่งแหล่งข่าวในสำนักงานรับมือเหตุฉุกเฉินของรัสเซียเปิดเผยกับสำนักข่าวทาสส์และอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน และบาดเจ็บประมาณ 20 คน

ข่าวระบุว่าเหตุระเบิด ซึ่งยังไม่ทราบชนิดและผู้อยู่เบื้องหลัง เกิดขึ้นภายในโบกี้โดยสารขบวนรถไฟใต้ดิน 2 ขบวน ที่สถานีจัตุรัสเซนนายา และที่สถานีสถาบันเทคโนโลยีเชสกี ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และมีรายงานว่าสถานีรถไฟใต้ดินอื่นๆ ที่อยู่บนเส้นทางเดียวกับขบวนรถไฟที่เกิดเหตุได้ปิดให้บริการจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม

ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่อยู่ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อรอพบหารือกับนายอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส ได้แถลงว่าสาเหตุการระเบิดยังไม่รู้แน่ชัด ตนสั่งการให้สอบสวนทุกความเป็นไปได้รวมทั้งการก่อการร้าย พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปในเหตุระเบิดภายในระบบรถไฟใต้ดินครั้งนี้ด้วย

ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในช่วงระหว่างเกิดเหตุมีผู้ถ่ายวีดิโอไว้ได้ แสดงให้เห็นผู้ได้รับบาดเจ็บนอนร่างโชกเลือดอยู่ในบริเวณชานชาลารถไฟใต้ดิน ส่วนตัวตู้โบกี้รถไฟได้ถูกแรงระเบิดทำลาย จนเศษเหล็กห้อยระโยงระยาง และหล่นเกลื่อนบริเวณพื้นที่รอบๆ ท่ามกลางความแตกตื่นของผู้โดยสารที่อยู่ในโบกี้ติดกัน ที่พยายามทุบกระจกออกมาจากตัวรถไฟ

...

ต่อมาโฆษกของผู้ว่าการนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ออกแถลงการณ์สรุปยอดเหยื่อเคราะห์ร้าย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ศพ ผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 50 คน นอกจากนี้ หน่วยงานการรถไฟใต้ดิน มีคำสั่งเพิ่มเติมว่าขอระงับการบริการรถไฟใต้ดินทุกสายในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กจนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบ

ข่าวระบุต่อไปด้วยว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัสเซียตกเป็นเป้าโจมตีของกองกำลังเชเชน ที่มีฐานอยู่ในภูมิภาคเชชเนีย ทางตอนใต้ของรัสเซียแล้วหลายครั้ง รวมทั้งเมื่อปี 2553 มือระเบิดพลีชีพหญิง 2 คน จุดชนวนระเบิดโจมตีในโบกี้ขบวนรถไฟใต้ดินในกรุงมอสโก ขณะมีผู้คนอยู่หนาแน่นจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 คน

นอกจากนี้ เหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ยังมีขึ้นไม่กี่สัปดาห์ หลังหน่วยต่อต้านก่อการร้ายของรัสเซีย เปิดเผยว่า สมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงที่มีความเชื่อมโยงกับกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส ได้วางแผนที่จะก่อเหตุโจมตีในพื้นที่กรุงมอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งทางการจับกุมไปได้ 11 คนเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้เดินทางมาจากภูมิภาคเอเชียกลาง และวางแผนที่จะใช้ระเบิดแสวงเครื่องในการลงมือ

จากนั้นในช่วงเย็นวันเดียวกัน แหล่งข่าวในหน่วยงานรับมือเหตุฉุกเฉินได้เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีระเบิดเพียง 1 ลูกที่ถูกจุดชนวน แต่ยังไม่ขอชี้แจงรายละเอียดอื่นๆ ส่วนสื่อท้องถิ่นรัสเซียรายงานด้วยว่ามีการตรวจพบระเบิดลูกที่ 2 ก่อนที่ระเบิดจะทำงาน และเจ้าหน้าที่ได้เข้าเก็บกู้แล้ว

ต่อมาในช่วงค่ำ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมอสโก เผยแพร่ความคืบหน้าเหตุระเบิดรถไฟใต้ดินในรัสเซียว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.เกิดเหตุระเบิดในขบวนรถไฟใต้ดิน สถานี Sennaya Ploshchad และสถานี Technological Institute นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในชั้นนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 50 ราย (ตัวเลขยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ) เสียชีวิต 10 ราย หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุระเบิดในเบื้องต้น สถานีรถไฟใต้ดินทุกแห่งปิดทำการชั่วคราวแล้ว ทั้งนี้ สอท.ได้ประสานกับกลุ่มคนไทยต่างๆ และ สกม. ณ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ยังไม่มีรายงานว่ามีคนไทยได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าวต่อไป หากมีผู้ใดได้รับผลกระทบ ต้องการความช่วยเหลือโปรดแจ้งได้ที่ +79169392155