ผอ.ซีไอเอในรัฐบาลทรัมป์ เลือก จีนา แฮสเพล ขึ้นเป็น รองผอ.ซีไอเอคนใหม่แล้ว จนนับเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ ขณะที่ สื่อนอกเผย มีประสบการณ์บริหารจัดการ คุกลับของซีไอเอ ที่เรียก‘แบล็กไซต์’ ในต่างแดน รวมทั้งไทย
เมื่อ 3 ก.พ.60 สื่อต่างประเทศรายงาน นายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) คนใหม่ ในรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่งตั้ง นางจีนา แฮสเพล เจ้าหน้าที่หญิงของซีไอเอระดับพระกาฬ วัย 60 ปี ผู้มีประสบการณ์ในการเป็นหัวหน้าบริหารดูแลเรือนจำซีไอเอในต่างแดน ที่เรียกันว่า ‘แบล็กไซต์’ (Blacksite) รวมทั้งการควบคุมคุกลับของซีไอเอในไทย เป็นผู้รับตำแหน่งรองผู้อำนวยการซีไอเอคนใหม่ จนนับเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้
เว็บไซต์ข่าว cbsnews เผยว่า จีนา แฮสเพล นับเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอซึ่งมีประสบการณ์เป็นหัวหน้าหน่วยซีไอเอในต่างประเทศอย่างโชกโชน รวมทั้งเธอยังดำรงตำแหน่งระดับสูงในสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หลายตำแหน่ง รวมทั้ง รองผู้อำนวยการหน่วยงานปฏิบัติการลับแห่งชาติ และรองผู้อำนวยการหน่วยปฏิบัติการลับแห่งชาติด้านข่าวกรองต่างแดนด้วย
cbsnews ยังระบุว่า จีนา แฮสเพล เคยมีบทบาทในอดีตโครงการปฏิบัติการลับของซีไอเอ ซึ่งใช้วิธีการสอบสวนผู้ต้องสงสัยเป็นพวกก่อการร้ายด้วยวิธีรุนแรง รวมทั้งเทคนิคการสอบสวนด้วยวิธี Waterboarding ซึ่งเป็นวิธีการใช้น้ำราดลงไปที่ตัวและบริเวณหน้าของนักโทษให้หายใจไม่ออกและยอมรับสารภาพในที่สุด เพราะทนต่อการทรมานไม่ไหว ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ สมัยอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช ได้อนุมัติให้ใช้กับผู้ต้องสงสัยและนักโทษก่อการร้าย โดย cbsnews ชี้ว่า จากการที่นายปอมเปโอ ผอ.ซีไอเอ เลือกจีนา แฮสเพล มารับตำแหน่งรอง ผอ.ซีไอเอ จึงยังไม่แน่ชัดว่า เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นถึงความพยายามจะใช้โครงการลับของซีไอเอในอดีตขึ้นมาใช้อีกหรือไม่
...
ทั้งนี้ วอชิงตันโพสต์ เคยลงข่าวเมื่อ ก.ค.2552 ว่า มีคุกลับในไทยเมื่อปี 2545 ที่เรียกชื่อกันว่า ‘แบล็กไซต์’ ดำเนินการโดยซีไอเอ ซึ่งสหรัฐฯ ปิดบังเป็นความลับโดยตลอด เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ลงนามในอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยการทรมาน หรือกระทำการเหี้ยมโหดและไร้มนุษยธรรม ถือเป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนและการสืบสวนขั้นพื้นฐานอย่างร้ายแรง โดยวอชิงตันโพสต์ ยังระบุว่า คุกลับแบล็กไซต์ มี 2 แบบ คือ สำหรับขังแกนนำกลุ่มก่อการร้ายอัลเคดา และคุกสำหรับคุมขังผู้ก่อการร้ายระดับรองลงมา ซึ่งไม่มีส่วนในการก่อวินาศกรรมช็อกโลก 9/11 อย่างไรก็ตาม หลังจากวอชิงตันโพสต์รายงานข่าวดังกล่าว ทำให้ อดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ของไทยต้องออกมายืนยันว่า ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง