อีกแค่ 1 สัปดาห์ (9 พ.ค.) จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีและเลือกตั้งทั่วไปของฟิลิปปินส์ นอกจากจะลุ้นกันว่าใครจะได้เป็นผู้นำคนใหม่ ชาวโลกยังลุ้น “แมนนี ปาเกียว” วีรบุรุษนักชกผู้ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน
“เดอะ แพ็กแมน” วัย 37 ปี นักชกชาวเอเชียคนแรกที่ได้ครองแชมป์โลกถึง 8 รุ่น เพิ่งประกาศแขวนนวมถาวร หลังเอาชนะ “ทิโมธี แบรดลีย์” เมื่อ 10 เม.ย. หนนี้เขาลงสมัครชิงเก้าอี้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในจังหวัดซารังกานี หลังเคยเป็น ส.ส.มาแล้ว 2 สมัย
โพลล่าสุดชี้ว่าปาเกียวจะคว้าเก้าอี้ ส.ว. ซึ่งมีการชิงชัยกัน 12 ที่นั่ง จากทั้งหมด 24 ที่นั่งได้ค่อนข้างแน่นอน แม้จะเสียรังวัดไปบ้าง หลังเขาเปรียบเปรยเมื่อเดือน ก.พ.ว่า พวกรักร่วมเพศ “เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์” จนถูกนานาชาติรุมสวดยับ และ “ไนกี้” บริษัทเครื่องกีฬายักษ์ใหญ่ ถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์
แต่ในฟิลิปปินส์ เรื่องนี้กระทบปาเกียวแค่จิ๊บจ๊อย ยิ่งหลังเอาชนะแบรดลีย์ได้ คะแนนนิยมกลับพุ่งขึ้นอีกจนมาอยู่อันดับ 3 ในบรรดาผู้ลงชิงเก้าอี้ ส.ว.ทั้งหมด
ขณะไปหาเสียงในเขตซาน ปาโบล เมื่อ 28 เม.ย. ปาเกียวยืนยันจะเลิกชกมวยอาชีพแน่นอน หันมาเป็นนักการเมืองเต็มตัว แม้จะมีเงินมหาศาลล่อใจให้ไปชกกับฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ อีกครั้งก็ไม่เอา
“เอ็มมานูเอล ดาปิดราน ปาเกียว” เกิดเมื่อ 17 ธ.ค.2521 ในครอบครัวที่ยากจนสุดๆ ในเมืองบูคิดนอนทางภาคใต้ เป็นลูกชายคนที่ 2 ในลูกๆ ทั้งหมด 4 คน พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เขายังเล็กๆ
ปาเกียวเคยทุกข์ยากถึงขั้นนอนข้างถนน อดมื้อกินมื้อ ต้องหยุดเรียนชั้นมัธยมปลายออกมาหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการชกมวยมาตลอด ขึ้นชกมวยสากลอาชีพครั้งแรกในปี 2538 ที่กรุงมะนิลา ได้ค่าตัวแค่ 100 เปโซ (ราว 75 บาท) ด้วยปูมหลังเช่นนี้ ทำให้เขาเป็นขวัญใจของคนยากจนอย่างเหนียวแน่น
ในช่วงหาเสียง ปาเกียวเน้นจุดขายในฐานะ “ดวงประทีปแห่งความหวังของผู้ยากไร้” ซึ่งแทบไม่ได้รับอานิสงส์อะไรจากเศรษฐกิจที่เติบโตในยุครัฐบาลประธานาธิบดีเบนิกโน อาคีโน ปาเกียวยังให้สัญญาว่าจะขึ้นเงินเดือนให้ครู ให้ทุนการศึกแก่นักเรียนที่ยากจน ให้เงินสนับสนุนชาวไร่ชาวนา ฯลฯ
เขายังกระตุ้นไม่ให้คนยากจนสูญสิ้น กำลังใจ ตนเคยยากจนยิ่งกว่าพวกเขามากมาย ไม่มีทั้งบ้านที่ดินเป็นของตัวเอง บ่อยครั้งไม่มีอะไรยาไส้ แต่พระเจ้ายังอุ้มชูให้ร่ำรวยยิ่งใหญ่ได้ คนยากจนจึงเห็นปาเกียวเป็น “ฮีโร่” และ “ความ หวัง” หลายคนเชื่อมั่นว่าปาเกียวจะ “รวยแล้วไม่โกง” และจะเอาเงินเดือนมาแจกคนยากจนด้วย
ฟิลิปปินส์มีวัฒนธรรมทางการเมืองที่มีเอกลักษณ์พิเศษ คนดังๆแต่ด้อยการศึกษา เช่นอดีตดาราหนังอย่างนายโจเซฟ เอสตราดา ยังเป็นประธานาธิบดีได้
เป้าหมายระยะยาวของปาเกียว คือเก้าอี้ “ประธานาธิบดี” จึงไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน!