สถานกงสุลใหญ่ และทีมไทยแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย จัดงานมหาสงกรานต์ Thailand Grand Festival ที่ Tumbalong Park ดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์ เมื่อวันที่ 12-13 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยจัดยิ่งใหญ่กว่าที่เคยมีมา ชาวไทยและต่างชาติแห่เที่ยวเนืองแน่น...
เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2559 นายณัฐพันธ์ ตรีเมฆ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ประจำประเทศออสเตรเลีย รายงานข่าว การจัดงานเทศกาลมหาสงกรานต์ Thailand Grand Festival ที่ Tumbalong Park ดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์ นครซิดนีย์ เมื่อวันที่ 12-13 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณการจัดงานโดยรอบ ที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยย่านกลางใจเมือง และประชนที่สัญจรไปมาตลอดทั้งวัน ได้เข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงช้าเริ่มตั้งแต่ 11.00 น. ประชาชนเริ่มที่จะทยอยเดินเข้ามาภายในงานเพื่อสรงน้ำพระ และชมการแสดงบนเวที โดยมีการแสดงต่างๆ จาก Metropolitan Administration, Thai Education Center, Dhammachai Education Foundtion, Buddharangsee Language School Wollongong, Siam Classic Dance Studio, การสาธิตการทำอาหารไทยโดยเชฟเดียร์ จาก "ร้านอาหาร @Bangkok" ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากชาวออสซี่ รวมทั้งการแสดงรำไทยจากโรงเรียนพุทธรังษีเป็นต้น ที่เป็นจุดสนใจของสื่อมวลชน และช่างภาพชาวต่างชาติมาทำข่าวกันเป็นจำนวนมาก
...
ต่อมาเวลาประมาณ 16:30 น. นายจิระชัย ปั้นกระษิณ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงแคนเบอร์รา นายณัฐพล ขันธหิรัญ กงสุลใหญ่ ประจำนครซิดนีย์, นางรุจิรัศมิ์ ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานซิดนีย์ ทีมไทยแลนด์ ซิดนีย์เคาน์ซิล และตัวแทนของดาร์ลิ่งฮาร์เบอร์ ร่วมกันทำพิธีเปิดโดยฉีดน้ำจากปืนฉีดน้ำ เพื่อฉลองสงกรานต์จากนั้นในช่วงบ่าย ซึ่งในเดือนมีนาคมนี้เป็นช่วงฤดูร้อนของชาวซิดนีย์ ท่ามกลางความร้อนระอุ โดยอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นเกือบไปถึง 40 องศา แต่ก็ยังมีประชาชนที่สนใจเดินเข้ามาภายในงานมากขึ้นกว่าในช่วงเช้า เดินต่อคิวเพื่อเข้าแถวซื้ออาหารไทย ตามบูธต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยร้านอาหารไทย ที่เข้ามาจำหน่ายนั้น ได้ผ่านการคัดเลือกแล้วเป็นอย่างดี จากสถานกงสุลใหญ่ และทีมไทยแลนด์ ว่าสามารถทำอาหารไทยรสชาติ อาหารไทยแท้ๆ จำหน่ายแก่ชาวต่างชาติได้ เพื่อคงไว้ซึ่งรสชาติ และโปรโมตประเทศไทยไปในตัวอีกด้วย
...
ในปีนี้ทางผู้จัด ได้เพิ่มเต็นท์บังแดดขนาดใหญ่ และเก้าอี้อีกเป็นจำนวนมาก ให้ประชาชน ได้นั่งรับประทานอาหาร และนั่งชมการแสดงศิลปะ นาฏศิลป์ไทยบนเวที และชมศิลปะการชกมวยไทยจากค่าย "Roongchai Gym" โดยที่ไม่ร้อนจนเกินไปโดยในช่วงแย็นในปีนี้ ทางสถานกงสุลใหญ่ และทีมไทยแลนด์ออสเตรเลีย ได้นำเอาศิลปิน จาก The Voice Thailand Season 4 นำโดย น้องไข่มุก-รุ่งรัตน์ เหม็งพานิช และ นุ๊ก-สมัชญ์ เนียมสอาด ขึ้นร้องเพลงบนเวที แสดงสลับกับวง Rarg Thai Band (วงดนตรี รากไทย) ขับกล่อมเพลงเพราะๆ ให้ชาวไทยได้ฟังคลายความคิดถึงเมืองไทยอีกด้วย
...
นายณัฐพล ขันธหิรัญ กงสุลใหญ่ ประจำนครซิดนีย์ กล่าวถึงจุดประสงค์ในการจัดงาน TGF ว่า งานนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลไทยที่ประสงค์จะให้ประเทศไทยแสดงสัญลักษณ์ ที่กลางนครซิดนีย์ ถือเป็นการเผยแพร่ภาพลักษณ์ให้คนออสเตรเลียรู้จักประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น และในแง่มุมต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวัฒนธรรม ซึ่งมีองค์ประกอบมากมายที่สะท้อนให้เห็นในงาน TGF เช่น นาฏศิลป์ การฟ้อนรำ การแสดงพื้นเมือง การสาธิตการประกอบอาหารไทย การสาธิตทำโรตี การสาธิตมวย ตะกร้อ อีกทั้งมีอาหารไทยและสินค้าไทยที่หลากหลายจากภูมิภาคต่างๆ ของประเทศมาแสดงให้ชาวต่างชาติได้สัมผัส การแสดงดนตรีจาก The Voice Thailand เป็นต้น
...
กงสุลใหญ่ ประจำนครซิดนีย์ กล่าวต่อว่า งาน TGF ที่จัดขึ้นมิใช่เพื่อชาวออสเตรเลีย หรือชาวต่างชาติเท่านั้นสังเกตได้ชัดเจนว่า เมืองที่มีคนไทยพำนักอาศัยอยู่จำนวนมาก มีชุมชนไทยกระจัดกระจายไปทั่ว ย่อมต้องคิดถึงความเป็นไทย อยากมาสัมผัสบรรยากาศแบบไทยๆ เพราะความคิดถึงและความรักต่อประเทศไทยพี่น้องเหล่านี้ต่างพาครอบครัวของตัว เองทั้งที่เป็นออสเตรเลียและชาวต่างชาติมาร่วมด้วย และกลายเป็นงานสังสรรค์รวมญาติมิตรอีกด้วยจึงเป็นความน่าประทับใจอย่างยิ่ง ที่งานนี้ได้จัดขึ้นมากว่า 20 ปีแล้วโดยเริ่มต้นชุมชนไทยจัดขึ้นเอง และต่อมาสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ พร้อมทั้งทีมประเทศไทยได้ร่วมกันจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 9 แล้ว โดยงาน TGF ครั้งนี้มีทีมประเทศไทยในนครซิดนีย์เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ประกอบด้วย สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานการค้าต่างประเทศ สำนักงาน BOI นครซิดนีย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานซิดนีย์ และบริษัทการบินไทยจำกัด สำนักงานซิดนีย์ แต่การจัดงานใดจะสำเร็จไม่ได้หากขาดการสนับสนุนจากชุมชนไทย ผู้ประกอบการธุรกิจไทยในซิดนีย์ ทั้งด้านอาหาร ทัวร์ และสมาคมต่างๆ
นายณัฐพล กล่าวอีกว่า ส่วนไฮไลต์ของงานมี 2-3 มุมมอง ถ้าเป็นด้านอาหาร คือ การสาธิตอาหารไทย หากเป็นด้านดนตรี ย่อมต้องเป็น The Voice Thailand และหากเป็นวัฒนธรรมไทยก็คือการแสดงนาฏศิลป์ที่คณะจากนครซิดนีย์ ร่วมกับคณะจากกรุงเทพมหานคร ร่วมกันแสดง จากการคาดการณ์ 2 วันที่จัดขึ้น น่าจะมีประมาณ 30,000 คนโดยวันอาทิตย์มีผู้มาเข้าร่วมหนาตากว่าวันเสาร์ ส่วนหนึ่งที่ช่วยให้มีผู้มาเข้าร่วมเยอะมากขนาดนี้นอกจากคนรู้จักเมืองไทย มากขึ้นแล้ว สภาพดินฟ้าอากาศก็เป็นใจด้วย เพราะไม่มีฝนเหมือนปีที่ผ่านมา อีกทั้งการตั้งเต็นท์หลบแดดให้ผู้มาร่วมสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
กงสุลใหญ่ ประจำนครซิดนีย์ กล่าวด้วยว่า สุดท้ายในฐานะที่สถานกงสุลใหญ่ฯ และทีมประเทศไทยเป็นหน่วยงานของไทยในนครซิดนีย์ มีหน้าที่สนับสนุนคนไทย และเผยแพร่ความนิยมไทยในบรรดาชาวต่างชาติ และต่างมีเป้าหมายเดียวกันที่จะช่วยกันพัฒนาประเทศชาติ การทำประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักด้วยการทูตเชิงวัฒนธรรมเช่นนี้ จะต้องทำต่อเนื่อง อันจะนำไปสู่การสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนต่อประชาชน โดยออสเตรเลียติดอยู่กับอาเซียนและไม่ไกลจากประเทศไทยเลย และความเข้าใจระหว่างกันในระดับประชาชนนี้จะมีส่วนอย่างยิ่งที่ช่วยสนับสนุน ให้เพิ่มความร่วมมือระหว่างกันทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและวัฒนธรรมต่อไปในอนาคต.