โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ร้อนใจ สั่งตรวจเช็กเครื่องบินเก่าของกองทัพ หลังเกิดโศกนาฏกรรมเครื่องบินซี-130 ผ่านการใช้งานนานถึง 50 ปี ตกใส่ย่านที่อยู่อาศัยของประชาชนที่เมืองเมดาน จนทำให้ยอดคนตายเพิ่มเป็น 141 คนแล้ว
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย แจ้งความคืบหน้าโศกนาฏกรรมเครื่องบินขนส่งลำเลียง ซี -130 ของกองทัพอากาศอินโดนีเซียตกใส่เขตที่พักอาศัยของประชาชน ในเมืองเมดาน จังหวัดสุมาตราเหนือ บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. หลังทะยานขึ้นจากสนามบินได้เพียงแค่ 2 นาที ว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลดครั้งนี้ เพิ่มเป็น 141 คนแล้ว โดยนักบิน ลูกเรือ และผู้โดยสารบนเครื่อง 122 คนเสียชีวิตทั้งหมด ขณะที่ประชาชนเบื้องล่างดับอนาถอย่างน้อย 19 คน
ข่าวแจ้งว่า ผู้เสียชีวิตบนเครื่องบินลำนี้ ไม่ได้มีเพียงเฉพาะ กัปตัน ช่างเทคนิค และเหล่านายทหารบนเครื่องบินเท่านั้น แต่ยังมีสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาด้วย โดยเครื่องบินขนส่งลำเลียงลำนี้ ได้ปฏิบัติภารกิจนำทหารและสมาชิกครอบครัว รวมถึงสิ่งของจำเป็น จากกรุงจาการ์ตา ไปยังเกาะหลายแห่งของอินโดนีเซีย

ด้านเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียกำลังทำการตรวจสอบสาเหตุของเครื่องบินตกในครั้งนี้ โดยพลอากาศเอก เอกุส สุเปรียตนา ผู้บัญชาการกองทัพอากาศอินโดนีเซีย กล่าวว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นปัญหามาจากตัวเครื่องยนต์ขัดข้อง ซึ่งเครื่องบินซี-130 ลำนี้ถูกสร้างขึ้นในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2507 มีอายุการใช้งานรวมมากถึง 50 ปีแล้ว
ขณะเดียวกัน นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียกล่าวว่า ถึงเวลาที่จะตรวจเช็กและวัดประสิทธิภาพเครื่องบินเก่า รวมถึงการปรับปรุงสมรรถนะเครื่องยนต์ของเครื่องบินเก่าให้มากขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจเช่นนี้อีก ทั้งนี้ ได้เกิดโศกนาฏกรรมเครื่องบินกองทัพอากาศอินโดนีเซีย โหม่งพสุธาหลายครั้ง ในขณะที่ กองทัพอากาศก็ยังไม่สามารถชี้แจงข้อสรุปสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินลำเลียงง ซี-130 ประสบเหตุตกเมื่อปี 2552