หลายประเทศในโลกนี้มีนโยบายลับ ขับคนที่ไม่มีคุณภาพออกนอกประเทศ เพื่อให้ไปลงหลักปักฐานทำมาหากินอยู่ในแผ่นดินอื่น ไม่ต้องการให้อยู่เป็นภาระกับประเทศชาติบ้านเมืองที่ต้องการคนเก่ง คนขยัน คนมีประสิทธิภาพมาช่วยกันสร้างชาติ และในขณะเดียวกัน ก็มีนโยบายดึงดูดคนเก่งจากประเทศชาติบ้านเมืองอื่นให้มาอยู่ในประเทศตนเอง
ผู้อ่านท่านที่เคารพ ไม่ต้องถึงระดับประเทศดอกครับ เอาแค่ระดับบริษัทก็ได้ ทุกบริษัทต้องการคนเก่งมาสร้างองค์กรทั้งสิ้น ถึงขนาดที่ว่า เดี๋ยวนี้ มีบริษัทที่มีชื่อเสียงทั้งของไทยและต่างประเทศ รับพนักงานเฉพาะพวกที่จบเกียรตินิยมอันดับ 1 จากสถาบันอันดับ 1 ของประเทศเท่านั้น เกียรตินิยมอันดับ 2 ไม่เอา ถึงแม้ว่าจะจบเกียรตินิยมอันดับ 1 แต่จบจากสถาบันลำดับ 2 ของประเทศก็ไม่เอา
หนึ่งในบรรดาผู้นำประเทศที่เคยมีความคิดเรื่องคนคุณภาพและกล้าสื่อออกมาให้ชาวโลกได้รับรู้โดยไม่กลัวถูกด่าก็คือ นายลี กวน ยิว นายลีเคยให้สัมภาษณ์ตอนที่แกเป็นนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์อย่างตรงไปตรงมาว่า คนที่มีคุณภาพจะเกิดจากคนมีคุณภาพด้วยกันเท่านั้น เมื่อชายหญิงที่มีการศึกษาดีสมรสกัน บุตรที่เกิดมาก็จะเป็นคนที่มีคุณภาพ นายลีนี่แหละครับ ตอนที่เป็นนายกรัฐมนตรี แกออกมาเรียกร้องให้สตรีที่จบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยแต่งงานกับผู้ชายที่มีคุณวุฒิทางการศึกษาที่เท่าเทียมกัน แกประกาศว่ารัฐบาลสิงคโปร์ขอส่งเสริมให้คู่สมรสที่มีคุณภาพมีบุตรมากๆ เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรที่มีคุณภาพให้กับสิงคโปร์
อดีตนายกรัฐมนตรีลีของสิงคโปร์ยังได้เสนอสิทธิพิเศษหลายประเภท อย่างเช่น ให้สตรีมีการศึกษาดีแต่งงานกับผู้ชายที่มีคุณภาพมีบุตรได้ 3 คน นอกจากนั้น รัฐบาลยังจะรับเป็นภาระในการจัดหาที่เรียนและที่ทำงานให้ คำเสนอของนายกรัฐมนตรีไม่ถูกใจนักสิทธิมนุษยชนดอกครับ เพราะนี่เป็นเกมการกีดกันมนุษย์ของมนุษย์ด้วยกัน แต่นายลีแกก็ไม่แคร์ แถมแกยังมองว่า ก็ไอ้หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนนั่นแหละตัวดี ที่เมื่อถึงคราวคัดเลือกพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็คัดเฉพาะพวกหัวกะทิเข้าไปในหน่วยงานของตนเอง พวกที่ไม่มีคุณภาพก็ถูกตัดคัดทิ้งไป
สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีประชากรหลายเชื้อชาติมารวมกัน ทั้งจีน อินเดีย และมาเลเซีย คนจีนส่วนใหญ่มีการศึกษาดี แต่ไม่ค่อยยอมแต่งงาน ส่วนประชากรเชื้อสายมาเลย์มักจะเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ มีลูกเยอะ แต่ไม่ค่อยมีการศึกษา
พ.ศ.2533 อัตราการเจริญพันธุ์ของคนสิงคโปร์เชื้อสายจีนมีเพียง 1.07 ในขณะที่ของคนสิงคโปร์เชื้อสายมาเลย์อยู่ที่ 2.1 รัฐบาลสิงคโปร์แก้ไขด้วยการตั้งหน่วยงานบริการหาคู่เพื่อให้คนสิงคโปร์ที่มีการศึกษาสูง (โดยเฉพาะคนจีน) มีการจัดพิมพ์เป็นหนังสือ มีคู่มือแนะนำการหาคู่ออกมาสู่สายตาประชาชนมากมายหลายแบบ มีการแนะนำวิธีการทำความรู้จักกันและกัน รวมทั้ง สอนวิธีการจีบ ฯลฯ ในระยะหลังๆ พออินเตอร์เน็ตเริ่มแพร่หลาย ก็มีการเปิดเว็บไซต์หาคู่ให้คนมีการศึกษาดีโดยเฉพาะ
แต่เพราะยาคุมกำเนิดนี่แหละครับ ที่ทำให้ความฝันของการมีประชากรคุณภาพดีจำนวนมากของนายลีไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
สิ่งที่รัฐบาลสิงคโปร์ทำอยู่ในตอนนี้ก็คือ การออกไปคัดเด็กหัวกะทิจากประเทศอื่นเพื่อให้ได้รับทุนการศึกษาให้มาเรียนในสิงคโปร์ และสร้างแรงจูงใจให้โอนสัญชาติมาเป็นคนสิงคโปร์ ก็ทำแบบเดียวกับที่สหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตกเคยทำในอดีตนั่นแหละครับ
สิงคโปร์มีความหวังตั้งใจว่า ประชากรของตนจะต้องพุ่งไปจนถึง 6.5 ล้านคน ในจำนวน 6.5 ล้านคนนั้น รัฐบาลสิงคโปร์ยอมให้เป็นชาวต่างชาติอยู่ 18% โดยให้ 1 ใน 5 ถือวีซ่าแบบชั่วคราวและทุกๆ 6 ใน 10 ของงานใหม่ของสิงคโปร์นั้น จะเป็นของผู้ที่โอนสัญชาติมาเป็นคนสิงคโปร์แล้ว การที่สิงคโปร์ยอมขนาดนี้ ก็เพราะต้องการให้ทรัพยากรมนุษย์ดังกล่าว เป็นผู้ขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจของสิงคโปร์ และช่วยขับเคลื่อนสาธารณรัฐสิงคโปร์ให้วิ่งนำ ทิ้งห่างชาติต่างๆ ในโลก
เรื่องทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพนี่ น่าสนใจครับ เพราะหลายประเทศพังไปเพราะมีแต่ประชากรไร้คุณภาพ ทั้งขาดการศึกษา และขาดทัศนคติสร้างสรรค์ในการสร้างตน สร้างประเทศ
ประเทศก็เหมือนครอบครัวนะครับ ครอบครัวไหนมีแต่สมาชิกที่เป็นภาระ การงานไม่ทำ เอาแต่บริโภคทรัพยากรของครอบครัวอย่างเดียว ครอบครัวนั้นก็ไปได้ไม่ไกลดอกครับ
ประเทศ หรือครอบครัวไหนได้สมาชิกที่ไม่ทำงาน แถมยังเกเรเกตุง ประท้วงทุกวัน อย่างนี้ยิ่งโชคร้ายครับ ถ้าปล่อยไปอย่างนี้ ครอบครัวนั้นเจ๊งแน่ครับ.