กระทรวงสิ่งแวดล้อมเกาหลีใต้ประกาศห้ามเพาะพันธุ์ ครอบครอง และสกัดน้ำดีจากหมีเพื่อการพาณิชย์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป พร้อมโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ยุติอุตสาหกรรมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ยาวนาน ขณะยังมีหมีราว 200 ตัวในฟาร์มรอการย้ายไปศูนย์พักพิง และยังถกเถียงเรื่องเงินชดเชยเกษตรกร

กระทรวงสิ่งแวดล้อม พลังงาน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของเกาหลีใต้ แถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมนี้เป็นต้นไป เกาหลีใต้จะสั่งห้ามการเพาะเลี้ยง การครอบครอง และการสกัดน้ำดีหมีอย่างเด็ดขาด เพื่อยุติอุตสาหกรรมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเรื่องทารุณกรรมสัตว์มาอย่างยาวนาน

ภายใต้กฎหมายคุ้มครองสิทธิสัตว์ฉบับแก้ไขใหม่ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ถึง 5 ปี โดยรัฐบาลจะให้ระยะเวลาผ่อนปรน แก่เกษตรกรเป็นเวลา 6 เดือน แต่จะถูกลงโทษทันทีหากมีการตรวจพบการสกัดน้ำดีในช่วงเวลานี้ ซึ่งนโยบายนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงร่วมกันเมื่อปี 2022 ระหว่างรัฐบาล เกษตรกร และกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์

อุตสาหกรรมฟาร์มหมีเริ่มขึ้นในเกาหลีใต้ช่วงต้นทศวรรษ 1980 โดยมีการนำเข้าหมีจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงมาเลเซีย เพื่อสกัดน้ำดีจากถุงน้ำดี โดยเฉพาะหมีควายหรือ Moon Bear มาใช้เป็นยาสมุนไพรและอาหารเสริมบำรุงพละกำลัง อย่างไรก็ตาม ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ความนิยมในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีตัวเลือกยาชนิดอื่นที่ราคาถูกกว่า รวมถึงความตระหนักรู้ของสาธารณชนเกี่ยวกับความโหดร้ายต่อสัตว์ที่ต้องถูกขังในกรงแคบตลอดชีวิต

ปัจจุบันยังมีหมีประมาณ 199 ตัว ถูกเลี้ยงอยู่ในฟาร์ม 11 แห่งทั่วประเทศ แม้ปีนี้จะมีการเข้าซื้อและย้ายหมี 21 ตัวไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าของรัฐในจังหวัดจอลลาแล้ว แต่ยังมีปัญหาความขัดแย้งเรื่อง "เงินชดเชย" ที่เกษตรกรต้องการในราคาสูงกว่าที่รัฐเสนอ

...

นายคิม กวาง-ซู เลขาธิการสมาคมผู้เพาะเลี้ยงหมี ซึ่งเลี้ยงหมีไว้ 78 ตัว ระบุว่า "นี่เป็นนโยบายที่แย่มาก" เกษตรกรหลายคนต้องยอมขายหมีในราคาถูกเพียงเพื่อความอยู่รอด แต่เขาก็ยืนยันว่าจะปฏิบัติตามกฎหมายที่ออกมา

กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์ต่างชื่นชมความมุ่งมั่นของรัฐบาล แต่ได้แสดงความกังวลอย่างหนักใน 2 ประเด็นหลัก เนื่องจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งแรกรับหมีได้จำกัด ขณะที่แห่งที่สองถูกเลื่อนการเปิดไปถึงปี 2027 เนื่องจากปัญหาน้ำท่วม กลุ่มสิทธิสัตว์เรียกร้องให้รัฐสนับสนุนการสร้าง "เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเอกชน" เพื่อให้หมีเหล่านี้ได้ใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติจริงๆ มากกว่าการถูกส่งไปอยู่ตามสวนสัตว์ต่างประเทศเพียงอย่างเดียว

คิม ซอง-ฮวาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่า "แผนการยุติฟาร์มหมีคือเจตนารมณ์ของประเทศที่จะปรับปรุงสวัสดิภาพสัตว์ป่าและทำตามพันธสัญญาในระดับสากล เราจะพยายามปกป้องหมีเหล่านี้จนถึงตัวสุดท้าย".


ที่มา Associated Press