กองบัญชาการภาคใต้สหรัฐฯ เผยปฏิบัติการโจมตีทางทหารต่อเรือต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องเครือข่ายก่อการร้ายในน่านน้ำสากลในมหาสมุทรแปซิฟิก คร่าชีวิต 2 ราย ไม่มีทหารสหรัฐฯ ได้รับบาดเจ็บ เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการ "Southern Spear" ที่มุ่งตัดเส้นทางค้ายาเสพติดและก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์จากสภาคองเกรสและองค์กรสิทธิมนุษยชน

กองบัญชาการภาคใต้ของสหรัฐฯ (SOUTHCOM) แถลงผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม ที่ผ่านมา กองกำลังเฉพาะกิจร่วม "Southern Spear" ได้ปฏิบัติการโจมตีด้วยอาวุธต่อเรือลำหนึ่งในน่านน้ำสากล ซึ่งดำเนินการโดยกลุ่มที่ถูกระบุว่าเป็นองค์กรก่อการร้าย ตามคำสั่งของนายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ปฏิบัติการครั้งนี้ส่งผลให้ชายบนเรือเสียชีวิต 2 ราย โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารของสหรัฐฯ ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธการ "Operation Southern Spear" ในสมัยรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ที่พุ่งเป้ากวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ

ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีเรือต้องสงสัยขนยาเสพติดสะสมแล้วอย่างน้อย 107 ราย โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ขึ้นบัญชีผู้เสียชีวิตเหล่านี้เป็น "ผู้ต่อสู้ที่ผิดกฎหมาย" (Unlawful Combatants) ซึ่งส่งผลให้กองทัพสามารถใช้กำลังอาวุธสังหารได้โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบทางกระบวนการยุติธรรม ตามข้อกำหนดลับของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ท่ามกลางการตั้งคำถามจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนและสมาชิกสภาคองเกรสบางส่วน

การโจมตีล่าสุดเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาระบุว่า สหรัฐฯ ได้ทำลาย "สถานประกอบการขนาดใหญ่" ในพื้นที่ท่าเรือของเวเนซุเอลา ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นจุดที่ใช้โหลดยาเสพติดขึ้นเรือ โดยระบุสั้นๆ ว่าพื้นที่ดังกล่าว "ไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว"

...

นอกจากนี้ แหล่งข่าวระบุว่า CIA ได้ใช้โดรนโจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณท่าเรือชายฝั่งเวเนซุเอลาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการโจมตีเป้าหมายภายในดินแดนเวเนซุเอลาโดยตรงครั้งแรกที่โลกได้รับรู้ ควบคู่ไปกับการส่งกองเรือรบปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตร

ด้านประธานาธิบดี นีโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา ได้ออกมาประณามการส่งกำลังทหารของสหรัฐฯ ในน่านน้ำทะเลแคริบเบียนว่าเป็น "การก่อการร้ายทางจิตวิทยา" ขณะที่สภาแห่งชาติเวเนซุเอลาได้เร่งอนุมัติกฎหมายใหม่ กำหนดโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี สำหรับใครก็ตามที่ให้การสนับสนุน "การโจรสลัด" หรือ "การปิดล้อม" เพื่อตอบโต้มาตรการของทรัมป์

ในขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดขึ้น ทรัมป์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับเป้าหมายสุดท้ายในเวเนซุเอลา แต่ยังคงย้ำคำเตือนเดิมว่าคงจะ "ฉลาดกว่า" หากมาดูโรยอมก้าวลงจากตำแหน่ง ก่อนที่สถานการณ์จะรุนแรงไปกว่านี้.


ที่มา CNN