เซเลนสกี ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่รัสเซียที่ว่า เคียฟส่งโดรนเกือบร้อยลำโจมตีบ้านพักของ วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ขณะที่ปูตินยืนยันจะตอบโต้อย่างรุนแรง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 29 ธ.ค. 2568 ว่า นายโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัสเซียที่ว่า ฝ่ายยูเครนส่งโดรนโจมตีหนึ่งในที่พักของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน พร้อมทั้งกล่าวหามอสโกว่าพยายามขัดขวางการเจรจาสันติภาพ

ก่อนหน้านี้ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย อ้างว่ายูเครนส่งอากาศยานไร้คนขับ (UAV) พิสัยไกลจำนวน 91 ลำ เข้าโจมตีบ้านพักรับรองของประธานาธิบดีปูตินในภูมิภาคนอฟโกรอด ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซียเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ถูกยิงสกัดได้ทั้งหมด โดยที่ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายแต่อย่างใด

เซเลนสกีปฏิเสธคำกล่าวอ้างนี้ โดยระบุผ่าน X ว่านี่เป็น “คำโกหกตามแบบฉบับของรัสเซีย” ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อให้รัฐบาลเครมลินของรัสเซีย มีข้ออ้างในการโจมตียูเครนต่อไป

เซเลนสกีกล่าวหาอีกว่า ก่อนหน้านี้รัสเซียเองต่างหากที่เป็นฝ่ายมุ่งเป้าโจมตีอาคารรัฐบาลต่างๆ ในกรุงเคียฟ และว่า “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่โลกจะต้องไม่นิ่งดูดาย เราไม่อาจยอมปล่อยให้รัสเซียทำลายความพยายามในการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนได้”

ด้านทางการรัสเซียระบุว่า จากนี้จะมีการทบทวนจุดยืนของตนเองในการเจรจาสันติภาพ ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าปูตินอยู่ที่ใดในช่วงเวลาที่ถูกอ้างว่าเกิดการโจมตีดังกล่าว

“เมื่อพิจารณาถึงความเสื่อมทรามถึงขีดสุดของระบอบอาชญากรรมในเคียฟ ซึ่งได้เปลี่ยนไปใช้นโยบายการก่อการร้ายโดยรัฐ จุดยืนในการเจรจาของรัสเซียจะถูกนำมาทบทวนใหม่” นายลาฟรอฟกล่าว

...

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวทาสส์ (Tass) ของรัสเซียรายงานว่า นายลาฟรอฟได้กล่าวทิ้งท้ายว่ารัสเซียไม่ได้มีความตั้งใจที่จะถอนตัวจากการกระบวนการเจรจากับสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ทำเนียบขาวสหรัฐฯ เปิดเผยในวันจันทร์ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ “เสร็จสิ้นการต่อสายพูดคุยในเชิงบวก” กับปูติน ภายหลังจากการหารือระหว่างสหรัฐฯ และยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

โดยนายยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของรัฐบาลรัสเซียบอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ในระหว่างการพูดคุยนั้น ปูตินได้ชี้ให้เห็นว่าเหตุโจมตีที่พักของเขาตามที่รัสเซียกล่าวอ้างนั้น เกิดขึ้นแทบจะทันทีหลังจากการเจรจาระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ กับเซเลนสกี ซึ่งสหรัฐฯ มองว่าเป็นความสำเร็จ

นายอูชาคอฟอ้างด้วยว่า “ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตกใจกับข้อมูลนี้ เขารู้สึกโกรธและบอกว่าเขาไม่อยากจะเชื่อว่ามีการกระทำที่บ้าคลั่งเช่นนี้เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการระบุด้วยว่า เรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อแนวทางที่สหรัฐฯ จะใช้ในการร่วมงานกับเซเลนสกีอย่างไม่ต้องสงสัย”

อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องการโจมตีที่รัสเซียกล่าวอ้างแต่อย่างใด

นายอูชาคอฟเสริมว่า ปูตินได้ประกาศว่า “การกระทำอันเป็นการก่อการร้ายที่ไร้ความยั้งคิด” ครั้งนี้ จะได้รับการตอบโต้อย่าง “รุนแรงที่สุด”


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : bbc