แอนโทนี โจชัว อดีตนักมวยแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวท ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ที่ไนจีเรีย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ขณะที่ตัวของโจชัวได้รับบาดเจ็บ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แอนโทนี โจชัว นักมวยชาวอังกฤษเชื้อสายไนจีเรีย และเป็นอดีตแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวท ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ประเทศไนจีเรีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (29 ธ.ค. 2568) ส่งผลให้เขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ในขณะที่มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ
รถยนต์ที่โจชัวโดยสารชนกับรถยนต์อีกคัน เมื่อเวลาประมาณ 11:00 น. วันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่น บนทางหลวงสายลากอส–อิบาดัน ในเมืองมาคุน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองลากอส เมืองหลวงทางเศรษฐกิจของไนจีเรีย
แถลงการณ์ของตำรวจระบุว่า โจชัวนั่งอยู่ที่เบาะหลังของรถยนต์ ส่งผลให้โจชัวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และตอนนี้กำลังอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ขณะเดียวกัน มีผู้ที่อยู่ในรถคันเดียวกับโจชัวเสียชีวิตด้วย 2 ศพ
นายอาเดนิยี โอโรโจ ผู้อยู่ในเหตุการณ์บอกกับสำนักข่าว Punch ว่า โจชัวเดินทางมากับขบวนรถที่มีกัน 2 คัน และผู้โดยสารที่นั่งข้างคนขับกับคนที่นั่งข้างโจชัวเสียชีวิตคาที่
ด้านเอ็ดดี เฮิร์น โปรโมเตอร์ของโจชัว บอกกับ Daily Mail Sport ว่านักชกหนุ่มวัย 36 ปี ไปไนจีเรียเพื่อพักผ่อนกับครอบครัว
“เรากำลังพยายามติดต่อแอนโทนี และในระหว่างนี้เราไม่อยากคาดเดาว่าอาการของเขาเป็นอย่างไร แต่จากภาพที่ผมเห็น ก็น่ายินดีที่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เป็นอะไรมาก” เฮิร์นกล่าว
สำนักงานความปลอดภัยจราจรกลางของไนจีเรีย ระบุในแถลงการณ์ว่า รถยนต์ยี่ห้อเลกซัสที่โจชัวโดยสารมานั้น “ต้องสงสัยว่าใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด” จนสูญเสียการควบคุมขณะพยายามแซง และพุ่งชนกับรถบรรทุกที่จอดนิ่งอยู่... บริเวณข้างทาง"
...
ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อของผู้เสียชีวิต แต่โฆษกของผู้ว่าการรัฐโอกุนระบุว่า รายงานเบื้องต้นบ่งชี้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นชายชาวต่างชาติ 2 ราย
ทั้งนี้ อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ หลังจากโจชัวเพิ่งเอาชนะน็อก เจค พอล ยูทูบเบอร์คนดังที่ผันตัวมาเป็นนักมวย ในการชกที่สนับสนุนโดย Netflix ที่เมืองไมอามี
ตั้งแต่นั้นมา โจชัวซึ่งเป็นอดีตแชมป์โอลิมปิก ก็มีข่าวเชื่อมโยงกับการขึ้นชกกับ ไทสัน ฟิวรี เพื่อนร่วมชาติและอดีตแชมป์โลกเช่นเดียวกัน
การชกครั้งล่าสุดของโจชัวก่อนที่จะพบกับพอล คือการแพ้น็อกในยกที่ 5 ให้กับ แดเนียล ดูบัวส์ นักชกชาวอังกฤษอีกราย เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna