อัยการเกาหลีใต้เปิดผลสอบสวน "คิม กอน-ฮี" อดีตสตรีหมายเลขหนึ่ง ภรรยาอดีตประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล พบหลักฐานรับสินบนอื้อฉาวมูลค่ารวมกว่า 8.2 ล้านบาท ทั้งกระเป๋าแบรนด์เนมและเครื่องประดับล้ำค่า แลกกับการใช้อำนาจมืดแทรกแซงกิจการแผ่นดินและเอื้อประโยชน์ลัทธิดัง เสนอศาลสั่งจำคุก 15 ปี
อัยการเกาหลีใต้ได้แถลงสรุปผลการสอบสวนกรณีของคิม กอน-ฮี อดีตสตรีหมายเลขหนึ่ง ซึ่งถูกกล่าวหาว่ารับสินบนเป็นเงินและสิ่งของมูลค่ามหาศาล รวมถึงการเข้ามามีบทบาทแทรกแซงการบริหารราชการแผ่นดินอย่างไม่ถูกต้อง
รายการสินบนสุดหรูและสายสัมพันธ์ลัทธิดังจากการสืบสวนพบว่า นางคิมได้รับสินบนจากนักธุรกิจและนักการเมืองรวมมูลค่ากว่า 377.25 ล้านวอน (ประมาณ 8.2 ล้านบาท) โดยรายการทรัพย์สินที่ถูกระบุว่ารับมาจากผู้นำโบสถ์แห่งความสามัคคีและบุคคลอื่น ๆ ประกอบด้วยกระเป๋า "ชาแนล" 2 ใบ กระเป๋าดิออร์ สร้อยคอจากแบรนด์ "กราฟฟ์" (Graff) และเครื่องประดับหรูอีกหลายรายการ รวมถึงนาฬิกาข้อมือ และภาพวาดของ "ลี อู-ฟาน" ศิลปินแนวมินิมัลลิสต์ชื่อดังของเกาหลีใต้
อัยการ มิน จุง-กี ระบุว่า สถาบันหลักของประเทศถูกทำลายอย่างย่อยยับจากการใช้อำนาจในทางที่ผิดของนางคิม โดยเธอมักจะเข้าไปแทรกแซงกิจการรัฐ "จากหลังฉาก" เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาประชาชน นอกจากนี้ยังพัวพันกับการปั่นหุ้นและการแทรกแซงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกด้วย
ด้านอดีตประธานาธิบดี ยุน ซอก-ยอล ซึ่งขณะนี้ถูกคุมขังในข้อหากบฏจากการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อปีก่อน ได้ปฏิเสธต่อพนักงานสอบสวนว่าเขาไม่ทราบเรื่องการรับสินบนของภรรยา แต่อัยการระบุว่าเป็นข้ออ้างที่ "ยอมรับได้ยาก"
ในเบื้องต้น อัยการได้เสนอให้ศาลลงโทษจำคุกนางคิมเป็นเวลา 15 ปี และปรับเงินอีก 2 พันล้านวอน (ประมาณ 43 ล้านบาท) โดยชี้ว่าเธอทำตัว "อยู่เหนือกฎหมาย" และสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มลัทธิ ซึ่งถือเป็นการทำลายหลักการแยกศาสนาออกจากการเมืองตามรัฐธรรมนูญ
...
นางคิม กอน-ฮี ซึ่งถูกจับกุมตัวมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและระบุในการแถลงปิดคดีว่าข้อกล่าวหาทั้งหมด "ไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง" อย่างไรก็ตาม เธอยอมรับว่า "เมื่อพิจารณาจากบทบาทและความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย ดูเหมือนชัดเจนว่าฉันได้ทำความผิดพลาดไปหลายประการ"
เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองเกาหลีใต้ที่อดีตประธานาธิบดีและภรรยาถูกจับกุมคุมขังพร้อมกัน โดยศาลกรุงโซลมีกำหนดจะอ่านคำพิพากษาตัดสินโทษนางคิมในวันที่ 28 มกราคมที่จะถึงนี้.
ที่มา AFP