จีนประกาศคว่ำบาตรบริษัทอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและผู้บริหารสหรัฐฯ รวม 30 ราย หลังสหรัฐฯ เดินหน้าขาย อาวุธล็อตใหญ่ให้ไต้หวัน เตือนสหรัฐฯ หยุดการกระทำ “อันตราย” ที่ล้ำเส้นประเด็นอธิปไตย

วันที่ 26 ธันวาคม 2568 กระทรวงการต่างประเทศจีน ประกาศมาตรการคว่ำบาตรบริษัทด้านกลาโหมของสหรัฐอเมริกา 20 แห่ง และบุคคลอีก 10 ราย เพื่อตอบโต้กรณีสหรัฐฯ อนุมัติแพ็กเกจขายอาวุธให้ไต้หวันมูลค่า 11,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในดีลที่มีมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

จีนระบุว่า การคว่ำบาตรมีขึ้นเพื่อตอบโต้การสนับสนุนทางทหารของสหรัฐฯ ต่อไต้หวัน ซึ่งจีนยืนยันว่าเป็น ส่วนหนึ่งของอธิปไตยจีน พร้อมเตือนว่าการกระทำยั่วยุใดๆ ที่ข้ามเส้นในประเด็นไต้หวัน จะต้องเผชิญกับการตอบโต้ที่แข็งกร้าวจากจีน และเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติความพยายามอันตรายในการติดอาวุธให้กับไต้หวัน

จีนระบุว่า บริษัทที่ถูกคว่ำบาตร รวมถึง โบอิ้ง สาขาเซนต์หลุยส์ ตลอดจน นอร์ธรัป กรัมแมน ซิสเต็ม คอร์เปอเรชัน  บริษัทแอลทรี แฮร์ริส มารีไทม์ เซอร์วิส และ ลาซารัส เอไอ 

โดยจีนระบุว่ามาตรการคว่ำบาตรยังครอบคลุมถึงการ อายัดทรัพย์สินในจีน  ห้ามองค์กรและบุคคลภายในประเทศทำธุรกิจกับบริษัทที่ถูกคว่ำบาตร รวมถึง ยึดทรัพย์สินของบุคคลที่ถูกลงโทษในจีน และห้ามเดินทางเข้าประเทศ โดยมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 26 ธันวาคม

ในกลุ่มบุคคลที่ถูกคว่ำบาตร มีทั้ง ผู้ก่อตั้งบริษัทแอนดูริล อิสดัสทรีส์  และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทด้านกลาโหมอีก 9 ราย

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ประกาศแพ็กเกจขายอาวุธให้ไต้หวันเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ประกอบด้วย ระบบจรวด HIMARS จำนวน 82 ชุด, จรวด ATACMS จำนวน 420 ลูก มูลค่ากว่า 4,000 ล้านดอลลาร์, ปืนใหญ่อีกกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึงโดรนทางทหารมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ต่อมากระทรวงกลาโหมไต้หวัน ออกแถลงการณ์ขอบคุณสหรัฐฯ ที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพการป้องกันตนเอง และยกระดับพลังยับยั้งภัยคุกคามอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันที่ยังคงปะทุอย่างต่อเนื่อง.

...

ที่มา Aljazeera