รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศจัดการเลือกตั้งรอบที่ 3 ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย ในวันที่ 25 มกราคม 2026 ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นเพียงความพยายามสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลทหารอีกครั้ง
การกำหนดวันเลือกตั้งดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่กองทัพเมียนมาเดินหน้าแผนการเลือกตั้ง ซึ่งถูกองค์กรเฝ้าระวังประชาธิปไตยและประชาคมระหว่างประเทศวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า เป็นความพยายามสร้างความชอบธรรมให้กับอำนาจของรัฐบาลทหาร หลังการรัฐประหารในปี 2021 ที่ทำให้ประเทศตกอยู่ในภาวะสงครามกลางเมือง และทำให้พื้นที่จำนวนมากของเมียนมาอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มกบฏติดอาวุธ
ผู้นำฝ่ายประชาธิปไตย ออง ซาน ซูจี ยังคงถูกคุมขังนับตั้งแต่การยึดอำนาจ ขณะที่พรรค สันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National League for Democracy – NLD) ซึ่งชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในปี 2020 ถูกยุบพรรคไปแล้ว ด้านองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ออกมาวิจารณ์รัฐบาลทหารเมียนมาว่า ใช้มาตรการปราบปรามผู้เห็นต่างอย่างกว้างขวางในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งสหภาพ (Union Election Commission) ซึ่งแต่งตั้งโดยรัฐบาลทหาร ระบุว่าการเลือกตั้งรอบที่ 3 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายจะจัดขึ้นใน 63 เมือง จากทั้งหมด 330 เมือง ทั่วประเทศ โดยกำหนดการเลือกตั้งแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ รอบแรก จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้, รอบที่สอง กำหนดในวันที่ 11 มกราคม และรอบที่สาม และรอบสุดท้าย ในวันที่ 25 มกราคม 2026
เมียนมาอยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพเป็นเวลาส่วนใหญ่หลังได้รับเอกราช ก่อนจะมีช่วงเวลาประมาณหนึ่งทศวรรษของรัฐบาลพลเรือน ซึ่งสร้างความหวังถึงการปฏิรูปประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม ความหวังดังกล่าวยุติลงเมื่อ พลเอก มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทำรัฐประหารยึดอำนาจ หลังพรรคการเมืองที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพพ่ายแพ้อย่างยับเยินในการเลือกตั้งปี 2020 โดยกองทัพอ้างว่ามีการทุจริตเลือกตั้งอย่างกว้างขวาง
...
ภายหลังรัฐประหาร กองกำลังความมั่นคงใช้ความรุนแรงปราบปรามการชุมนุมประท้วง ส่งผลให้นักเคลื่อนไหวจำนวนมากหันไปจับอาวุธ ร่วมกับกองกำลังชาติพันธุ์ที่ต่อสู้กับรัฐบาลกลางมาอย่างยาวนาน
รัฐบาลทหารเมียนมาได้ออกกฎหมายที่กำหนดโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี สำหรับผู้ที่ออกมาประท้วงหรือวิพากษ์วิจารณ์การเลือกตั้งด้านพลเอกมิน อ่อง หล่าย พยายามนำเสนอว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการฟื้นฟูประชาธิปไตย และเป็นหนทางสู่สันติภาพสำหรับฝ่ายต่อต้านการปกครองของกองทัพ
อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งระบุว่า กระบวนการเลือกตั้งถูกครอบงำโดยพรรคการเมืองที่ฝักใฝ่กองทัพ ขณะที่ฝ่ายค้านที่แท้จริงแทบไม่มีพื้นที่ทางการเมือง ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไร้ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ.
ที่มา : channelnewsasia
คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ เลือกตั้งเมียนมา