รัสเซียประกาศแผนพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บนดวงจันทร์ภายในปี 2036 เพื่อจ่ายพลังงานให้โครงการสำรวจดวงจันทร์และสถานีวิจัยนานาชาติร่วมกับจีน เดินหน้าสู่ภารกิจระยะยาวบนดวงจันทร์ท่ามกลางการแข่งขันของชาติมหาอำนาจ
รัฐวิสาหกิจอวกาศรัสเซีย "รอสคอสมอส" ระบุว่าเป้าหมายคือการจัดหาไฟฟ้าให้ยานสำรวจบนผิวดวงจันทร์ รถโรเวอร์ หอดูดาว และโครงสร้างพื้นฐานของสถานีวิจัยร่วมรัสเซีย–จีน พร้อมลงนามสัญญากับบริษัทการบินและอวกาศ Lavochkin สำหรับการก่อสร้าง
แม้ในแถลงการณ์ล่าสุดจะไม่ได้ใช้คำว่า "นิวเคลียร์" โดยตรง แต่รอสคอสมอสระบุชัดเจนว่าผู้ที่มีส่วนร่วมหลักในโครงการนี้คือ Rosatom (รัฐวิสาหกิจพลังงานปรมาณูของรัสเซีย) และ สถาบันคูร์ชาตอฟ (Kurchatov Institute) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยนิวเคลียร์ชั้นนำของประเทศ จึงเป็นที่แน่ชัดว่าโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อจ่ายไฟให้กับรถสำรวจ, ศูนย์สังเกตการณ์ และระบบสนับสนุนชีวิตบนดวงจันทร์
นายดมิทรี บาคานอฟ หัวหน้าคนปัจจุบันของรอสคอสมอส ยืนยันว่าเป้าหมายหลักคือการติดตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อการสำรวจดวงจันทร์อย่างยั่งยืน และยังมีแผนขยายการสำรวจไปยังดาวศุกร์ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น "ดาวฝาแฝด" ของโลกอีกด้วย
ความร่วมมือนี้มีจุดเริ่มต้นจากการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เมื่อปี 2021 และมีการขยายความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รัสเซียและจีนได้ลงนามความร่วมมือเฉพาะด้านในการสร้างโรงไฟฟ้าบนดวงจันทร์ ซึ่งตามแผนโรดแมประบุว่า ช่วงปี 2033-2035 จะเริ่มส่งมอบและติดตั้งส่วนประกอบโรงไฟฟ้า รวมถึงภารกิจร่วม 5 ครั้ง เพื่อขนส่งโมดูลเข้าสู่ดาวบริวารและติดตั้งบนพื้นผิวดวงจันทร์ ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างสถานีวิจัยที่ทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงแบบถาวร
...
นับตั้งแต่ ยูริ กาการิน เป็นมนุษย์คนแรกที่ขึ้นสู่อวกาศในปี 1961 รัสเซียแสดงความภาคภูมิใจในฐานะผู้นำมาตลอด แต่ในช่วงไม่กี่ทศวรรษหลังกลับเริ่มล้าหลังสหรัฐฯ และจีน โดยเฉพาะความล้มเหลวของภารกิจ "Luna-25" เมื่อเดือนสิงหาคม 2023 ที่ยานพุ่งชนพื้นผิวดวงจันทร์ รวมถึงการก้าวขึ้นมาของ SpaceX โดย อีลอน มัสก์ ที่เข้ามาแย่งชิงตลาดการขนส่งอวกาศ
การประกาศสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นความพยายามครั้งสำคัญของรัสเซียในการยกระดับจากการส่งยานไปสำรวจแบบครั้งคราว เป็นการสร้าง "อาณานิคมทางวิทยาศาสตร์" ระยะยาวบนดวงจันทร์ที่มีระยะห่างจากโลกกว่า 384,400 กิโลเมตร.