กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ ยืนยันความพร้อมในการทำหน้าที่ "ตัวกลาง" เพื่อยุติข้อพิพาทและฟื้นฟูข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา โดยเตรียมรับไม้ต่อจากมาเลเซียในการนั่งเก้าอี้ประธานอาเซียนปี 2026 ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนที่ยังคงตึงเครียด

กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ (DFA) ออกแถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์พร้อมเข้ามารับบทบาทผู้ประสานงานและไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทย หากทั้งสองฝ่ายตัดสินใจขอรับความช่วยเหลือผ่านกลไกประธานอาเซียน ทันทีที่ฟิลิปปินส์เข้ารับตำแหน่งประธานอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม ปี 2026

ถ้อยแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังการประชุมวาระพิเศษของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนทั้ง 11 ประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจัดขึ้นเพื่อหาทางฟื้นฟูข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา หลังจากมีการปะทะด้วยจรวดและปืนใหญ่ต่อเนื่องมานานกว่า 2 สัปดาห์

ในการประชุมครั้งนี้ ทั้งไทยและกัมพูชาเห็นพ้องที่จะให้ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของทั้งสองฝ่ายเข้าพบหารือกัน โดยมุ่งหวังที่จะรื้อฟื้นข้อตกลงหยุดยิงที่เคยเจรจาไว้เมื่อเดือนกรกฎาคม และเพิ่งมีการลงนามอย่างเป็นทางการไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47

นอกจากประเด็นความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชาแล้ว ฟิลิปปินส์ยังต้องเผชิญกับโจทย์ความมั่นคงที่ซับซ้อนในภูมิภาคที่รอการแก้ไขในปี 2026 ได้แก่ วิกฤตการณ์ในพม่า ซึ่งนางมาเรีย เทเรซา ลาซาโร รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ จะต้องรับควบตำแหน่ง "ทูตพิเศษ" ของประธานอาเซียนเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในพม่าโดยเฉพาะ และประเด็นทะเลจีนใต้และช่องแคบไต้หวัน ที่มีความพยายามในการบรรลุข้อตกลง "ประมวลการปฏิบัติในทะเลจีนใต้" ระหว่างอาเซียนและจีนให้สำเร็จภายในปี 2026

...

มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนปัจจุบันกำลังเร่งผลักดันการคลี่คลายสถานการณ์ก่อนจะส่งมอบตำแหน่งให้กับฟิลิปปินส์ ซึ่งถือเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญของกลุ่มอาเซียนในการรักษาเสถียรภาพและสันติภาพท่ามกลางความขัดแย้งของประเทศสมาชิกในภูมิภาค.


ที่มา Rappler