รัฐบาลทรัมป์ สั่งระงับการก่อสร้างโครงการพลังงานลมในทะเล 5 แห่ง อ้างว่าอาจรบกวนประสิทธิภาพการทำงานของกองทัพในการรักษาความมั่นคงของชาติ
เมื่อวันจันทร์ที่ 22 ธ.ค. 2568 สหรัฐฯ ประกาศระงับสัญญาเช่าโครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้าในทะเล (Offshore Wind) ขนาดใหญ่ 5 แห่งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างบริเวณชายฝั่งตะวันออกชั่วคราว โดยอ้างถึงความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทผู้พัฒนารายใหญ่ร่วงลงอย่างหนัก
การตัดสินใจของรัฐบาลภายใต้การนำของ โดนัลด์ ทรัมป์ ถือเป็นอุปสรรคครั้งล่าสุดที่ถาโถมเข้าใส่อุตสาหกรรมนี้ ซึ่งต้องเผชิญกับการหยุดชะงักครั้งแล้วครั้งเล่า ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีผู้หาเสียงด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะยุติการพัฒนาพลังงานลมในทะเล โดยเขาให้เหตุผลว่ากังหันลมเหล่านี้มีราคาแพง ไร้ประสิทธิภาพ และทำลายทัศนียภาพ
หุ้นของบริษัท Orsted กลุ่มพลังงานยักษ์ใหญ่จากเดนมาร์ก ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการที่ได้รับผลกระทบ 2 แห่ง ร่วงลงมากกว่า 12% ในช่วงการซื้อขายภาคเช้า ขณะที่ผู้พัฒนารายอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการเหล่านี้ เช่น Dominion Energy และ Equinor ต่างก็มีราคาหุ้นซื้อขายลดลงเช่นกัน
กระทรวงมหาดไทยของสหรัฐฯ ระบุว่า กระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) ได้แสดงความกังวลว่าการเคลื่อนที่ของใบพัดกังหันลมขนาดใหญ่ รวมถึงตัวเสาที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสงสูงซึ่งใช้รองรับกังหันลม อาจรบกวนระบบเรดาร์ของกองทัพ ทำให้การตรวจจับและติดตามภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นทำได้ยากลำบากยิ่งขึ้น
“หน้าที่หลักของรัฐบาลสหรัฐฯ คือการปกป้องประชาชนชาวอเมริกัน” นายดัก เบอร์กัม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุในแถลงการณ์ประกาศระงับโครงการ
ทางกระทรวงฯ เสริมว่า การสั่งระงับชั่วคราวครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางมีเวลาทำงานร่วมกับผู้ถือสัญญาเช่าและหน่วยงานในระดับรัฐ เพื่อประเมินว่าความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติที่เกิดจากโครงการเหล่านี้จะสามารถบรรเทาลงได้หรือไม่
...
สำหรับโครงการที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ได้แก่ โครงการ Revolution Wind และ Sunrise Wind ของบริษัท Orsted, โครงการ Vineyard Wind 1 ของบริษัท Avangrid และ Copenhagen Infrastructure Partners, โครงการ Coastal Virginia Offshore Wind ของบริษัท Dominion Energy และโครงการ Empire Wind 1 ของบริษัท Equinor
ด้านกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยกเลิกการระงับโครงการโดยเร็ว โดยให้เหตุผลว่าโครงการเหล่านี้ได้ผ่านการตรวจสอบด้านความมั่นคงแห่งชาติอย่างละเอียดถี่ถ้วนมาแล้ว และเตือนว่าการระงับโครงการจะกระทบความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในหลายภาคส่วนของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ รัฐบาลทรัมป์มุ่งเป้าโจมตีโครงการพลังงานลมในทะเลมาตลอด โดยในเดือนสิงหาคม รัฐบาลได้สั่งให้บริษัท Orsted ยุติการก่อสร้างโครงการ Revolution Wind บริเวณนอกชายฝั่งรัฐโรดไอแลนด์ แม้ว่าในเวลาต่อมาผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางจะมีคำสั่งยกเลิกการสั่งห้ามดังกล่าวก็ตาม
นอกจากนี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา คำสั่งระงับงานในโครงการ Empire Wind ของบริษัท Equinor ก็เพิ่งจะได้รับการผ่อนปรน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงประนีประนอมกับรัฐนิวยอร์กที่เชื่อมโยงกับโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่ทรัมป์ให้การสนับสนุน
ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นได้สร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อกลุ่มผู้พัฒนาโครงการ ก่อนหน้านี้บริษัท Orsted ต้องระดมทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินให้แก่โครงการต่าง ๆ ในสหรัฐฯ หลังจากที่เหล่าพันธมิตรที่อาจร่วมลงทุนต่างพากันถอนตัว เนื่องจากความผันผวนด้านนโยบายและท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์ของรัฐบาลต่อพลังงานลม
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cna