ตำรวจออสเตรเลียเปิดหลักฐาน สองพ่อลูกผู้ก่อเหตุยิงกราดกลางงานฉลองของชาวยิวที่หาดบอนได แอบซุ่มฝึกยุทธวิธีและใช้อาวุธปืนในพื้นที่ชนบทของรัฐนิวเซาท์เวลส์ก่อนลงมือ ด้านนายกฯ "แอนโทนี อัลบาเนซี" เตรียมผลักดันกฎหมายจัดการกลุ่มยุยงปลุกปั่นความเกลียดชัง และมาตรการคุมเข้มอาวุธปืนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี
ความคืบหน้ากรณีเหตุกราดยิงสะเทือนขวัญที่หาดบอนได ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 15 ราย ล่าสุดตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้เปิดเผยเอกสารต่อศาล ระบุว่า นายซาจิด อัคราม ผู้พ่อซึ่งถูกวิสามัญในที่เกิดเหตุ และนายนาวีด ผู้เป็นลูกชาย ได้มีการเตรียมการอย่างเป็นระบบก่อนก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้
เปิดหลักฐานการฝึกยุทธวิธีเอกสารของตำรวจระบุว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้ทำการ "ฝึกซ้อมการใช้อาวุธปืน" ในพื้นที่ชนบทของรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยมีภาพหลักฐานแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่ใช้ปืนลูกซองและเคลื่อนที่ในลักษณะ "ยุทธวิธีทางทหาร" นอกจากนี้ยังพบวิดีโอที่บันทึกไว้เมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งทั้งคู่กล่าวโจมตีกลุ่ม "ไซออนิสต์" โดยมีธงของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) เป็นฉากหลัง และได้ทำการ "ลาดตระเวน" พื้นที่หาดบอนไดในเวลากลางคืนเพียงไม่กี่วันก่อนลงมือ
นายกรัฐมนตรี แอนโทนี อัลบาเนซี แถลงด้วยความเสียใจต่อชุมชนชาวยิวและชาวออสเตรเลียทั่วประเทศ พร้อมประกาศว่าจะไม่ยอมให้ผู้ก่อการร้ายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มไอเอสมาสร้างความแตกแยกในสังคม โดยเตรียมเสนอทางออกทางกฎหมายที่รุนแรงขึ้นเพื่อจัดการกับ "การเผยแพร่คำสอนที่สร้างความเกลียดชัง"และยืนยันจะปกป้องสิทธิของชาวออสเตรเลียเชื้อสายยิวให้สามารถใช้ชีวิตและปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างปลอดภัย
รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมประกาศโครงการ "ซื้อคืนอาวุธปืน" ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1996 เพื่อนำอาวุธออกจากท้องถนนให้ได้มากที่สุด ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ได้เรียกประชุมสภาสมัยพิเศษเพื่อผ่านกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดที่สุดในประเทศ โดยมีมาตรการสำคัญด เช่น จำกัดการถือครองปืนไม่เกิน 4 กระบอกต่อคน ยกเว้นเกษตรกรที่อาจถือครองได้ถึง 10 กระบอก การสั่งห้ามแสดง "สัญลักษณ์ก่อการร้าย" ทุกรูปแบบ รวมถึงธงกลุ่มไอเอสในที่สาธารณะ และให้อำนาจเจ้าหน้าที่สั่งระงับการชุมนุมประท้วงได้นานถึง 3 เดือนหลังเกิดเหตุการณ์ก่อการร้าย
...
ความคืบหน้าด้านคดีสำหรับผู้ก่อเหตุ นายซาจิด อักราม วัย 50 ปี ชาวอินเดียที่เข้าออสเตรเลียตั้งแต่ปี 1998 ได้เสียชีวิตจากการถูกตำรวจวิสามัญ ส่วนนายนาวิด ลูกชายวัย 24 ปี ซึ่งเกิดในออสเตรเลีย ได้ถูกย้ายจากโรงพยาบาลเข้าสู่เรือนจำเพื่อดำเนินคดีแล้ว
นอกจากนี้ ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังเตรียมพิจารณาคำสั่งห้ามใช้ถ้อยคำที่สุ่มเสี่ยงต่อการสร้างความรุนแรง เช่น วลีที่เกี่ยวข้องกับการรุกฮือทางการเมืองในบางบริบท เพื่อธำรงไว้ซึ่งความสงบสุขของสังคมในระยะยาว.
ที่มา ABC News