ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวสุนทรพจน์ถึงชาวอเมริกัน ให้คำมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังมุ่งสู่การขยายตัวครั้งใหญ่ พร้อมกล่าวโทษนายโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาราคาสินค้าที่พุ่งสูง พร้อมประกาศแจกเช็คโบนัส "Warrior Dividend" ให้ทหารคนละ 1,776 ดอลลาร์ ท่ามกลางคะแนนนิยมที่ดิ่งเหวจากปัญหาสินค้าราคาแพง

ทรัมป์ วัย 79 ปี กล่าวจากทำเนียบขาวในโอกาสครบหนึ่งปีของการกลับมาดำรงตำแหน่งว่า เขา "รับช่วงปัญหามหาศาลมาแก้ไข" และยืนยันว่าราคาน้ำมันและสินค้าอุปโภคบริโภคที่ประชาชนกังวลนั้น "กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว" แม้จะยอมรับว่ายังไม่จบสิ้น แต่ย้ำว่าความคืบหน้ามีให้เห็นชัดเจน

ท่ามกลางความประหลาดใจ ทรัมป์ประกาศมอบ "เงินปันผลนักรบ" ให้กำลังพลสหรัฐ 1.45 ล้านนาย คนละ 1,776 ดอลลาร์สหรัฐ  (ราว 55,909 บาท) ก่อนเทศกาลคริสต์มาส โดยใช้งบจากรายได้ภาษีศุลกากร พร้อมระบุว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นการยกย่องปี ค.ศ.1776 ซึ่งเป็นปีสถาปนาประเทศ และสหรัฐฯ จะฉลองครบรอบ 250 ปีในปีหน้า

ผู้นำสหรัฐยังย้ำว่า ปี 2026 สหรัฐจะเผชิญ "การเติบโตทางเศรษฐกิจที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน" ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่สหรัฐร่วมเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกกับแคนาดาและเม็กซิโก อย่างไรก็ดี แม้ทำเนียบขาวจะโปรโมตสุนทรพจน์นี้ว่าเป็นการวางทิศทางเศรษฐกิจตลอดวาระที่สอง แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ยังคงมุ่งโจมตีคู่ขัดแย้งทางการเมือง โดยเฉพาะนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต และผู้อพยพ ที่ทรัมป์กล่าวหาว่าแย่งงานชาวอเมริกัน

ฝ่ายเดโมแครตตอบโต้ทันที โดยวุฒิสมาชิกชัค ชูเมอร์ ระบุว่า ทรัมป์ "อยู่ในโลกที่ตัดขาดจากความเป็นจริงของคนอเมริกัน" พร้อมชี้ว่าข้อเท็จจริงคือราคาสินค้ายังเพิ่มขึ้น อัตราว่างงานสูงขึ้น และไม่เห็นสัญญาณยุติ

...

สุนทรพจน์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังปีที่ทรัมป์ใช้อำนาจประธานาธิบดีอย่างเข้มข้น ตั้งแต่การปราบปรามผู้อพยพ ไปจนถึงการเล่นงานฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

ผลสำรวจหลายสำนักสะท้อนว่า ประเด็นที่ชาวอเมริกันกังวลมากที่สุดคือค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่ามีส่วนมาจากนโยบายภาษีศุลกากรต่อคู่ค้าทั่วโลกของทรัมป์ ผลโพล PBS News/NPR/Marist ที่เผยแพร่วันเดียวกัน ระบุว่าทรัมป์ได้คะแนนนิยมด้านการจัดการเศรษฐกิจต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดย 57% ไม่เห็นด้วย และกังวลค่าครองชีพ ขณะที่โพล YouGov ชี้ว่า 52% มองว่าเศรษฐกิจแย่ลงภายใต้การนำของเขา

ทรัมป์ยังเผชิญเสียงวิจารณ์จากฐานเสียง MAGA ว่าให้ความสำคัญกับการทูตต่างประเทศ เช่น ยูเครน กาซา และความตึงเครียดกับเวเนซุเอลา มากกว่าปัญหาในประเทศ แม้สุนทรพจน์ครั้งนี้จะไม่กล่าวถึงยูเครนหรือเวเนซุเอลา แต่เขาอ้างผลงานเรื่องการหยุดยิงในกาซา การโจมตีโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน และการทำสงครามกับเครือข่ายค้ายาเสพติด

สัญญาณการปรับยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจเริ่มชัดขึ้น เมื่อการเลือกตั้งกลางเทอมปีหน้าใกล้เข้ามา หลังรีพับลิกันพ่ายแพ้หนักในการเลือกตั้งท้องถิ่นสำคัญเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ทรัมป์เร่งเดินสายภายในประเทศเพื่อสื่อสารนโยบายเศรษฐกิจ โดยสัปดาห์ก่อนเขาสัญญาที่เพนซิลเวเนียว่าจะ “ทำให้อเมริกามีค่าครองชีพที่เอื้อมถึงอีกครั้ง” และมีกำหนดจัดเวทีปราศรัยในนอร์ทแคโรไลนาในวันศุกร์นี้

ด้านรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ ซึ่งถูกจับตาในฐานะผู้สืบทอดทางการเมืองในปี 2028 ก็ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนอดทนต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงเปลี่ยนผ่าน.


ที่มา AFP