ทางการเวเนซุเอลายืนยัน ยังสามารถส่งออกน้ำมันได้เป็นปกติ หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศปิดล้อมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

เมื่อวันพุธที่ 17 ธ.ค. 2568 เวเนซุเอลายังคงแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อสหรัฐฯ โดยยืนกรานว่าการส่งออกน้ำมันดิบของพวกเขา ไม่ได้รับผลกระทบจากการประกาศปิดล้อมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มแรงกดดันทั้งทางทหารและเศรษฐกิจต่อรัฐบาลของประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร

เวเนซุเอลาซึ่งเป็นประเทศที่มีปริมาณน้ำมันสำรองที่พิสูจน์แล้วมากที่สุดในโลก ไม่แยแสต่อคำขู่ว่าจะได้รับความยากลำบากที่เพิ่มมากขึ้น โดยยืนยันว่าการดำเนินงานต่างๆ ยังคงเป็นไปตามปกติ

“ปฏิบัติการส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์พลอยได้ยังคงดำเนินไปอย่างปกติ เรือบรรทุกน้ำมันที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการของ PDVSA ยังคงเดินเรือด้วยความปลอดภัยอย่างเต็มที่” บริษัทน้ำมันแห่งชาติเวเนซุเอลา (PDVSA) ระบุในแถลงการณ์

นายทรัมป์กล่าวเมื่อวันอังคารว่าเขากำลังบังคับใช้ การปิดล้อมอย่างเบ็ดเสร็จและสมบูรณ์ต่อเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรทุกลำที่เดินทางเข้าและออกจากเวเนซุเอลา

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังพูดถึงการวางกำลังทหารสหรัฐฯ อย่างหนาแน่นในทะเลแคริบเบียน ซึ่งรวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย พร้อมเตือนว่า เวเนซุเอลาถูกโอบล้อมอย่างสมบูรณ์โดยกองเรือรบ (Armada) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการจัดตั้งขึ้นในประวัติศาสตร์ของอเมริกาใต้

ข่าวการปิดล้อมดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในการซื้อขายช่วงเช้าวันพุธที่กรุงลอนดอน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่กองกำลังสหรัฐฯ ได้เข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรลำหนึ่งใกล้ชายฝั่งเวเนซุเอลา

...

ทั้งนี้ สหรัฐฯ ยกระดับความเคลื่อนไหวทางทหารในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยยิงเรือที่อ้างว่าขนยาเสพติดไปนับสิบลำ จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อ้างว่าเป็นปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวโจมตีเวเนซุเอลาอย่างชัดเจนว่าเป็นองค์กรก่อการร้ายข้ามชาติ

ฝ่ายรัฐบาลเวเนซุเอลาเชื่อว่า ปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดดังกล่าวเป็นเพียงฉากบังหน้าเพื่อพยายามโค่นล้มอำนาจของนายมาดูโร ผู้ซึ่งถูกกล่าวหาว่าโกงการเลือกตั้งเมื่อปีที่ผ่านมา และเพื่อเข้ายึดครองทรัพยากรน้ำมันของเวเนซุเอลา

โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณกำกวมมาตลอดว่าจะเข้าแทรกแซงในเวเนซุเอลาหรือไม่ แต่เขากล่าวว่าเขาเชื่อว่าเวลาในอำนาจของนายมาดูโรนั้น "ใกล้จะหมดลงแล้ว"

อนึ่ง เศรษฐกิจที่บอบช้ำของเวเนซุเอลาต้องพึ่งพาการส่งออกน้ำมันเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม กองทัพของเวเนซุเอลาซึ่งให้การสนับสนุนนายมาดูโร ผู้นำฝ่ายซ้ายจัด กล่าวว่าพวกเขา "ไม่เกรงกลัว" ต่อการข่มขู่ของนายทรัมป์

“เราขอบอกกับรัฐบาลสหรัฐฯ และประธานาธิบดีของพวกเขาว่า เราไม่เกรงกลัวต่อคำขู่ที่หยาบคายและจองหองของพวกเขา” นายวลาดิเมียร์ ปาดริโน โลเปซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวในงานซึ่งเต็มไปด้วยผู้บัญชาการระดับสูงที่ย้ำคำสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อมาดูโรมาโดยตลอด

ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักสำหรับน้ำมันของเวเนซุเอลา กล่าวปกป้องรัฐบาลมาดูโรระหว่างการต่อสายโทรศัพท์พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลา ต่อกรณีที่พวกเขาเรียกว่าเป็น “การข่มเหง” ของสหรัฐฯ

“จีนคัดค้านการข่มเหงฝ่ายเดียวในทุกรูปแบบ และสนับสนุนทุกประเทศในการปกป้องอธิปไตยและศักดิ์ศรีของชาติ” เขากล่าว พร้อมเสริมว่าเวเนซุเอลา “มีสิทธิ์ที่จะพัฒนาความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับประเทศอื่นๆ อย่างเป็นอิสระ”


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : cna