นักวิจัยออสเตรเลียพบว่าสัตว์ที่หยุดการสืบพันธุ์ ไม่ว่าจะด้วยการคุมกำเนิดทางฮอร์โมนหรือการทำหมัน มีอายุขัยเฉลี่ยยืนยาวขึ้นราวร้อยละ 10-20

มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย เปิดเผยผลวิจัยที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลจากบันทึกของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่ภายใต้การเลี้ยงดูของมนุษย์ 117 สายพันธุ์ อาทิ สิงโต หนู ฯลฯ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการมีอายุยืนยาวกับการให้กำเนิดลูก โดยพบว่าสัตว์ที่หยุดการสืบพันธุ์ ไม่ว่าจะด้วยการคุมกำเนิดทางฮอร์โมนหรือการทำหมัน มีอายุขัยเฉลี่ยยืนยาวขึ้นราวร้อยละ 10-20

มาลกอร์ซาตา ลากิส นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยฯ และผู้ร่วมเขียนการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ (Nature) กล่าวว่าผลการศึกษานี้ถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดชิ้นหนึ่ง ซึ่งสนับสนุนแนวคิดสำคัญของชีววิทยาวิวัฒนาการว่าการสืบพันธุ์ทำให้อายุขัยสั้นลง

นักวิจัยระบุว่า ทฤษฎีวิวัฒนาการชี้ว่าเมื่อร่างกายต้องทุ่มพลังงานไปกับการมีลูกและเลี้ยงดูลูก ย่อมแลกมากับระดับการซ่อมแซมเซลล์และการรักษาสุขภาพในระยะยาวที่ลดลง

การศึกษาที่นำโดยนักวิจัยจากนิวซีแลนด์และออสเตรเลียเผยว่าฐานข้อมูลที่ครบถ้วนของสวนสัตว์ ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลการเกิด การตาย และการจัดการสืบพันธุ์ผ่านการคุมกำเนิดหรือการทำหมัน ทำให้นักวิจัยสามารถเปรียบเทียบอายุขัยของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ในหลากหลายสายพันธุ์

การศึกษาพบกลไกที่แตกต่างกันระหว่างเพศ โดยในสัตว์เพศผู้ มีเพียงการทำหมันด้วยการตัดอัณฑะเท่านั้นที่ช่วยยืดอายุขัยได้ โดยเฉพาะหากดำเนินการก่อนเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ซึ่งน่าจะเป็นผลจากการลดพฤติกรรมเสี่ยงและก้าวร้าวที่ขับเคลื่อนด้วยฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่มักนำไปสู่การบาดเจ็บหรือตายก่อนวัยอันควร

ขณะที่ในเพศเมีย งานวิจัยพบว่าทั้งการคุมกำเนิดและการทำหมันด้วยการผ่าตัดสามารถช่วยยืดอายุขัยได้อย่างสม่ำเสมอในทุกสายพันธุ์ โดยไม่ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา

...

ลากิสอธิบายว่าการตั้งท้อง การให้นมลูก และวัฏจักรสืบพันธุ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ไม่เพียงแต่ต้องใช้พลังงานทางเมตาบอลิซึมสูง แต่ยังอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง พร้อมเสริมว่าเมื่อเพศเมียหลุดพ้นจากภาระด้านการสืบพันธุ์ ร่างกายจะสามารถจัดสรรทรัพยากรได้มากขึ้นเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ส่งผลให้ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อลดลง

ผลการศึกษานี้ยังช่วยอธิบายวิวัฒนาการของภาวะหมดประจำเดือน (menopause) เนื่องจากภาวะดังกล่าวอาจเป็นประโยชน์ต่อการอยู่รอดในช่วงบั้นปลายชีวิต

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าไม่ควรนำผลการศึกษานี้ไปปรับใช้กับการตัดสินใจด้านสุขภาพของมนุษย์โดยตรง โดยชี้ว่าการเข้าถึงบริการสาธารณสุข การแพทย์ โภชนาการ และการสนับสนุนทางสังคม ล้วนช่วยลดทอนความยากลำบากทางร่างกายที่เกิดจากการสืบพันธุ์ได้อย่างมาก.


ที่มา: ซินหัว

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ การสืบพันธุ์