ตำรวจเยอรมนีจับกุมผู้ต้องสงสัย 5 คน เป็นชาวต่างชาติทั้งหมด ฐานวางแผนก่อเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส โดยมีแรงจูงใจมาจากแนวคิดอิสลามหัวรุนแรง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจเยอรมนีดำเนินการจับกุมชาย 5 คน ในฐานะผู้ต้องสงสัยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการขับรถพุ่งชนผู้คนที่ตลาดคริสต์มาสในรัฐบาวาเรียทางตอนใต้ของประเทศ โดยคาดว่าแรงจูงใจของพวกเขาเกี่ยวข้องกับแนวคิดอิสลามหัวรุนแรง

เจ้าหน้าที่ในเยอรมนีกำลังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังขั้นสูงสุด หลังเกิดเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาสหลายครั้งก่อนหน้านี้ โดยผู้ถูกจับกุมประกอบด้วยชาวโมร็อกโก 3 คน ชาวอียิปต์ 1 คน และชาวซีเรีย 1 คน ถูกควบคุมตัวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ธ.ค.)

อัยการกล่าวหาว่า ชายชาวอียิปต์ ซึ่งมีอายุ 56 ปี เสนอให้มีการโจมตีโดยใช้ยานพาหนะ โดยมีเป้าหมายเพื่อสังหารหรือทำให้ผู้คนบาดเจ็บให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนชายชาวโมร็อกโกถูกกล่าวหาว่าเห็นด้วยที่จะดำเนินการโจมตีดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ไม่ได้ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้วางแผนจะก่อเหตุโจมตีเมื่อใด หรือตลาดใดเป็นเป้าหมาย แต่พวกเขาเชื่อว่าเป็นตลาดแห่งหนึ่งในพื้นที่ดิงโกลฟิง-ลันเดา (Dingolfing-Landau) ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองมิวนิก

หนังสือพิมพ์บิลด์ (Bild) ของเยอรมนีรายงานว่า ชายชาวอียิปต์ผู้นี้เป็นอิหม่ามประจำมัสยิดแห่งหนึ่งในพื้นที่

ตำรวจเปิดเผยด้วยว่า ชายชาวโมร็อกโก 3 คน อายุ 30 ปี, 28 ปี และ 22 ปี ถูกจับกุมในข้อหาตกลงที่จะก่อการฆาตกรรม ส่วนชายชาวซีเรียวัย 37 ปี ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้ ในการตัดสินใจก่ออาชญากรรมของพวกเขา

นายโจอาคิม แฮร์มันน์ รัฐมนตรีมหาดไทยของรัฐบาวาเรีย บอกกับหนังสือพิมพ์บิลด์ว่า “ความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงของเรา ช่วยป้องกันการโจมตีที่มีแรงจูงใจจากแนวคิดอิสลามหัวรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้”

...

ทั้งนี้ ตลาดคริสต์มาสเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามเทศกาลที่ได้รับความนิยมทั่วประเทศเยอรมนี ซึ่งมักดึงดูดผู้คนจำนวนมากและการท่องเที่ยวที่สำคัญ

การรักษาความปลอดภัยในงานอีเวนต์ต่างๆ ของเยอรมนี เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เหตุโจมตีในกรุงเบอร์ลินเมื่อปี 2559 เมื่อชายคนหนึ่งขับรถบรรทุกพุ่งชนฝูงชนในตลาด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ศพ เมื่อธันวาคมปีก่อนก็เพิ่งเกิดเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาสในเมืองมักเดบูร์ก จนมีผู้เสียชีวิต 6 ศพ


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : bbc