สหรัฐฯ กำลังพิจารณามาตรการใหม่ โดยอาจตรวจสอบประวัติการใช้โซเชียลมีเดียของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้าสู่สหรัฐฯ ย้อนหลังนานถึง 5 ปี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 10 ธ.ค. 2568 ว่า นักท่องเที่ยวจากหลายสิบประเทศรวมถึงสหราชอาณาจักร อาจถูกขอให้เปิดเผยประวัติการใช้โซเชียลมีเดียย้อนหลัง 5 ปี เพื่อเป็นเงื่อนไขในการเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา ตามข้อเสนอมาตรการใหม่ซึ่งเปิดเผยโดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ

เงื่อนไขใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ที่มาจากหลายสิบประเทศที่มีคุณสมบัติในการเดินทางเยือนสหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วันโดยไม่ต้องใช้วีซ่า ตราบใดที่พวกเขากรอกแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการอนุมัติการเดินทาง (ESTA)

นี่เป็นหนึ่งในความพยายามล่าสุดของรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการเพิ่มความเข้มงวดในการเข้าสู่สหรัฐฯ ให้มากขึ้น โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า แผนการใหม่นี้อาจเป็นอุปสรรคให้กับผู้ที่อาจต้องการมาเยือนสหรัฐฯ หรือละเมิดสิทธิทางดิจิทัล

สหรัฐฯ คาดการณ์ว่าในปี 2569 เนื่องจากพวกเขาจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกชายร่วมกับแคนาดาและเม็กซิโก และจะได้เป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ลอสแอนเจลิสในปี 2571

สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดน (CBP) กับกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) เป็นผู้เสนอมาตรการดังกล่าว ผ่านวารสาร Federal Register ของสหรัฐฯ

นอกเหนือจากการรวบรวมข้อมูลโซเชียลมีเดียแล้ว เอกสารใหม่นี้ยังเสนอให้มีการเก็บรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์และที่อยู่อีเมล ที่ผู้สมัครใช้ในช่วงห้าปีและสิบปีที่ผ่านมาตามลำดับ รวมถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาด้วย

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า จะดำเนินการตรวจสอบภาพรวมการใช้งานออนไลน์ ทั้งสำหรับผู้ยื่นขอเข้าสหรัฐฯ กับสมาชิกในครอบครัวของพวกเขา และจะต้องตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของโปรไฟล์โซเชียลมีเดียทั้งหมดให้เป็น “สาธารณะ” (public) เพื่อให้การคัดกรองนี้สามารถทำได้

...

ประกาศบนเว็บไซต์ของสถานทูตและสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเม็กซิโกระบุว่า ผู้ขอวีซ่าบางประเภทจะต้องระบุ “ชื่อผู้ใช้” โซเชียลมีเดียทั้งหมดในทุกแพลตฟอร์มที่พวกเขาใช้งานในช่วงห้าปีที่ผ่านมา โดยหากข้อมูลโซเชียลมีเดียใด ๆ ไม่ถูกระบุ อาจนำไปสู่การถูกปฏิเสธวีซ่า ทั้งในปัจจุบันและในอนาคตได้


ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign


ที่มา : bbc