กระทรวงวัฒนธรรมกัมพูชาออกโรงประณามไทย อ้างไทยยิงถล่มหลายจุดรอบปราสาทพระวิหาร ทำอาคารอนุรักษ์เสียหาย วอนนานาชาติร่วมกดดัน

 

วันที่ 8 ธันวาคม 2568 กระทรวงวัฒนธรรมและศิลปะกัมพูชา ออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรง กรณีที่อ้างว่าทหารไทยเปิดฉากใช้อาวุธโจมตีเข้าเขตกัมพูชาบริเวณอันเสส จังหวัดพระวิหาร ก่อนยิงถล่มต่อที่ปราสาทตาเมือนธมและพื้นที่อื่นตามแนวชายแดน โดยใช้ทั้งปืนใหญ่และอาวุธหนักหลายประเภท

กัมพูชาระบุว่า ในช่วง 05.00–07.00 น. การโจมตีเกิดขึ้นต่อเนื่องรอบพื้นที่ปราสาทพระวิหาร ส่งผลให้อาคารโครงการอนุรักษ์ “โกลปุระ 5” ภายใต้ความร่วมมือกัมพูชา–อินเดีย รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านการอนุรักษ์หลายส่วนได้รับความเสียหาย

แถลงการณ์ระบุว่า ตั้งแต่ปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อ 7 กรกฎาคม 2551 ไทยได้ยกข้อกล่าวหาและสร้างสถานการณ์ตึงเครียดหลายครั้ง ทั้งช่วงปี 2551–2554 และล่าสุดระหว่างเหตุปะทะ 24–28 กรกฎาคม 2568 โดยเหตุโจมตีล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากฝ่ายไทยมีการยั่วยุทางทหารต่อเนื่องหลายวัน   

กระทรวงฯ ระบุว่า การกระทำครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภารกิจอนุรักษ์ ทำให้ต้องอพยพเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน และประชาชนในพื้นที่ออกจากเขตอันตราย พร้อมประณามว่าการโจมตีของไทยเป็นการละเมิด “แถลงการณ์ร่วมเพื่อสันติภาพไทย-กัมพูชา” ที่นายกรัฐมนตรีของสองประเทศลงนาม ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยมีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย เป็นสักขีพยาน

กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติการสู้รบทันที เคารพข้อตกลงหยุดยิง แถลงการณ์สันติภาพ และพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศทุกประการ

...

กระทรวงวัฒนธรรมยังได้ขอให้นานาชาติกดดันไทยต่อการละเมิดอธิปไตยและการทำลายมรดกโลกปราสาทพระวิหาร ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนอนุสัญญามรดกโลกปี 1972 และอนุสัญญาเฮกปี 1954 ว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินทางวัฒนธรรมในภาวะสงคราม พร้อมย้ำว่าไทยในฐานะภาคีต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดอย่างเต็มที่.

ที่มา Freshnews