ไต้หวันออกแถลงการณ์ขอบคุณสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้กฎหมายใหม่ที่กำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ต้องทบทวนและปรับปรุงแนวทางการปฏิสัมพันธ์กับไต้หวันอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยทุก ๆ 5 ปี ขณะที่จีนแสดงความไม่พอใจทันที โดยมองว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในและละเมิดอธิปไตยของตน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้กฎหมายที่กำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ต้องทบทวนหลักเกณฑ์การปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับรัฐบาลไต้หวันเป็นประจำทุก 5 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณที่ตอกย้ำการสนับสนุนไต้หวัน แม้จะไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการก็ตาม
สหรัฐอเมริกาถือเป็นผู้สนับสนุนไต้หวันในเวทีระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุด และประเด็นนี้ได้สร้างความไม่พอใจอย่างต่อเนื่องในความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ เนื่องจากรัฐบาลจีนมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตนเอง
ย้อนกลับไปในปี 2021 ภายใต้การบริหารของทรัมป์ครั้งแรก นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น ได้ยกเลิกข้อจำกัดในการติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และไต้หวัน ซึ่งเคยถูกกำหนดขึ้นหลังจากสหรัฐฯ รับรองรัฐบาลจีนในปี 1979
กฎหมายฉบับใหม่ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คือ พระราชบัญญัติการดำเนินการรับรองไต้หวัน (Taiwan Assurance Implementation Act) ซึ่งระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ควรดำเนินการทบทวนหลักเกณฑ์การติดต่อกับไต้หวัน อย่างน้อยทุก ๆ 5 ปี
นางคาเรน กัว โฆษกสำนักงานประธานาธิบดีไต้หวัน กล่าวในแถลงการณ์ว่า กฎหมายนี้ "ยืนยันถึงคุณค่าของการปฏิสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับไต้หวัน สนับสนุนความสัมพันธ์ไต้หวัน-สหรัฐฯ ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และเป็นสัญลักษณ์ที่มั่นคงของค่านิยมร่วมกันของเราในด้านประชาธิปไตย เสรีภาพ และการเคารพสิทธิมนุษยชน" ด้านนายหลิน เจีย-ลุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน กล่าวว่า การทบทวนหลักเกณฑ์บ่อยครั้งขึ้น จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ไต้หวันสามารถเข้าประชุมในหน่วยงานรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ได้มากขึ้น แม้ว่ากฎหมายจะไม่ได้ระบุถึงเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน
...
ขณะที่นายหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการติดต่ออย่างเป็นทางการในรูปแบบใด ๆ ระหว่างสหรัฐฯ และ "เขตปกครองไต้หวันของจีน" เขากล่าวว่า "ปัญหาไต้หวันเป็นแกนหลักของผลประโยชน์หลักของจีน และเป็นเส้นแดงแรกที่มิอาจข้ามได้ ในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ"
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนเรียกร้องให้สหรัฐฯ ใช้ "ความรอบคอบอย่างที่สุดในการจัดการปัญหาไต้หวัน เพื่อยุติการปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นทางการทั้งหมดระหว่างสหรัฐฯ และไต้หวัน และไม่ส่งสัญญาณผิด ๆ ใด ๆ ไปยังกองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุน 'เอกราชของไต้หวัน'”
ทั้งนี้ รัฐบาลไต้หวันปฏิเสธการอ้างสิทธิ์ในดินแดนของจีน และยืนยันว่าตนมีสิทธิ์ที่จะติดต่อกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้อย่างเสรี
ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเคยพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนที่เกาหลีใต้เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา คาดว่ามีกำหนดการเยือนจีนในเดือนเมษายนนี้.
ที่มา Reuters